รายงานความคืบหน้า เหตุหอระฆังเจดีย์โบราณ วัดพระยาทำวรมหาวิหารพังถล่ม เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสแกนความร้อนมาค้นหา อย่างละเอียดซ้ำอีกครั้ง จนพบศพคนงานติดใต้ซากฐานเจดีย์เพิ่มอีก 1 ราย ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความเสียหายของหอระฆังเจดีย์ยักษ์ โดยจะหาข้อสรุป ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้
วันที่ 26 กันยายน 2561 เวลา 10.00 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยณรงค์ อธิสกุล รองผู้อำนวยการโครงการเทคโนโลยิวิศวะกรรมโยธา ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำเครื่องมือ ทรีดีแสกนเรเซอร์ เข้าตรวจสอบความทรงตัวของหอระฆังเจดีย์ยักษ์ ภายในวัดพระยาทำวรมหาวิหาร เพื่อดูว่าโครงสร้างของฐานเจดีย์มีเสถียรภาพหรือไม่ และดูตำแหน่งต่างๆ พร้อมทั้งดูว่าองค์เจดีย์ล้มดิ่งลงไปแนวไหน โดยหลังจากนี้ จะนำข้อมูลไปประมวลภาพจากคอมพิวเตอร์ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ก่อนบูรณะซ่อมแซมอีกครั้ง โดยคาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 2 วัน จึงจะมีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
ขณะที่รองศาสตราจารย์ เอนก ศิริพานิชกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ระบุว่า ในภาพรวมของหอระฆังเจดีย์ที่พังถล่มลงมา ประเมินด้วยสายตาแล้ว คาดว่าจะความเสียหายจะไม่มากนัก เพราะชิ้นส่วนบางชิ้นถูกกระแทก และมีรอยร้าวเท่านั้น ส่วนการบูรณะและซ่อมแซมความเสียหาย จะต้องซ่อมที่โครงสร้างฐานก่อนเป็นอันดับแรก
มีรายงานเพิ่มเติม หลังบริษัทผู้รับเหมา ตรวจสอบคนงานทั้งหมด จึงพบว่า มีคนหายไป 1 คน หน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง จึงกลับเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้งในช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยใช้เครื่องสแกนความร้อนมาค้นหา และรื้ออิฐออกดู จนพบว่า ร่างผู้เสียชีวิต1 ราย ถูกทับอยู่ที่ใต้ซากฐานเจดีย์ ทราบชื่อคือ นายสุริยันต์ ทองสาย อายุ 46 ปี เป็นช่างเชื่อม เจ้าหน้าที่สรุปจากเหตุเจดีย์ถล่มที่วัดพระยาทำ เขตบางกอกน้อยเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 11 เสียชีวิต 1 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: