รมว.พม. เป็นประธานมอบเข็มเครื่องหมายเยาวชนพระราชทาน พร้อมมอบโอวาทแก่คณะเยาวชนไทย ก่อนเข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ 2561 รุ่นที่ 45
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานมอบเข็มเครื่องหมายเยาวชนพระราชทาน พร้อมมอบโอวาทแก่คณะตัวแทนเยาวชนโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ประจำปี 2561 รุ่นที่ 45 เพื่อมอบขวัญและกำลังใจ อีกทั้ง แนวทางการปฏิบัติตนที่ดีในฐานะผู้แทนเยาวชนของประเทศไทยในการเข้าโครงการฯ ร่วมกับคณะผู้แทนเยาวชนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศญี่ปุ่น
พลเอก อนันตพร กล่าวว่า โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ เริ่มดำเนินโครงการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2517 ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนญี่ปุ่นกับเยาวชนอาเซียน ด้วยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เผยแพร่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงาม ตลอดจนการเสริมสร้างประสบการณ์และความรู้ เพื่อนำกลับมา ใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาประเทศชาติในอนาคต โดยมีคณะเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ จากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศๆ ละ 29 คน
ประกอบด้วย ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ บรูไนดารุสซาลาม เวียดนาม ลาว มาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเมียนมา รวมทั้ง คณะเยาวชนญี่ปุ่น 40 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 330 คน ซึ่งทั้งหมดต้องร่วมเดินทางไปกับเรือนิปปอนมารู โดยมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการฯ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 ต.ค. ถึงวันที่ 13 ธ.ค.61 รวมระยะเวลา 52 วัน สำหรับปีนี้ มีการแวะเยือนประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และบรูไนดารุสซาราม และมีกำหนดการแวะเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 24 – 27 พ.ย.61 ทั้งนี้ คณะเยาวชนมีการทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งบนเรือและในประเทศที่เรือแวะเยือน เช่น การอภิปรายทางวิชาการ กิจกรรม นันทนาการ และกีฬา การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญ การทัศนะศึกษาสถานที่สำคัญ การทำกิจกรรมร่วมกับเยาวชนท้องถิ่น และการพักกับครอบครัวเจ้าภาพ เป็นต้น
พลเอก อนันตพร กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจ การเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้กำหนดจัดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้กับคณะเยาวชนไทย ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 4–16 ก.ค.61 แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 การฝึกปฏิบัติด้านระเบียบวินัยและการทำงานเป็นทีม โดยวิทยากรจากศูนย์การนักศึกษาวิชาทหาร และ ช่วงที่ 2 การฝึกอบรมภาควิชาการ ประกอบด้วย การบรรยาย การอภิปราย และฝึกปฏิบัติ โดยการจำลองสถานการณ์กิจกรรมต่างๆ บนเรือ จากนั้น จะมีการอบรมเตรียมความพร้อม ครั้งที่ 2ระหว่างวันที่ 21 – 23 ต.ค.61 ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้คณะเยาวชนไทย ได้ทบทวนเนื้อหาวิชาการ รวมทั้งเตรียมความพร้อมในภาพรวมตามภารกิจของกลุ่มและหน้าที่ของทุกคน
ผู้แทนเยาวชนทุกคนจาก 11 ประเทศ มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลานาน บนพื้นฐานความแตกต่างกัน ทั้งภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนเยาวชนไทยให้ประสบความสำเร็จ จึงจำต้องใช้ศักยภาพและความรู้ความสามารถที่มีอยู่เป็นทุนเดิมร่วมกับคุณสมบัติอื่นๆ เช่น การตรงต่อเวลา การเคารพกติกาการอยู่ร่วมกัน การเรียนรู้ที่จะทำงานเป็นทีม ด้วยความสามัคคีและความรับผิดชอบร่วมกัน การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและไตร่ตรองอย่างรอบคอบ การมีจิตอาสา การรับฟังและเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
และการยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมทั้งในระหว่างและภายหลังโครงการฯ อันจะนำมาซึ่งความเข้าใจและมิตรภาพที่ดีต่อกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ นับเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้เยาวชนทุกคนสามารถเรียนรู้ ฟันฝ่าอุปสรรค และนำพาทีมให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ได้เป็นอย่างดี พร้อมนำความรู้และประสบการณ์กลับมาใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาประเทศชาติในอนาคตต่อไป
