X

เปิดเส้นทาง วิทยา เลาหกุล นักเตะไทยคนแรกที่ไค้ค้าแข้งในลีกสูงสุดของยุโรป

เปิดประวัติวิทยา เลาหกุล นักเตะลำพูน ของไทยคนแรกที่ได้ไปค้าแข้งกับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในบุนเดสลีก้า(ลีกสูงสุดของเยอรมนี) และยังเคยเกือบได้เป็นเพื่อนร่วมทีมของดิเอโก้ มาราโดน่า

วิทยา เลาหกุล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย จากจังหวัดลำพูน (ปัจจุบันอายุ 64 ปี) ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานนักเตะทีมชาติไทยอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเขาเป็นนักฟุตบอลของไทยเพียงไม่กี่คนที่เคยไปค้าแข้งกับลีกชั้นนำของโลก     อย่างบุนเดสลีก้า (ลีกสูงสุดของเยอรมนี) ถัดจากวิทยา ก็มีเพียงแค่ ธีรศิลป์ แดงดา รุ่นน้องในทีมชาติเท่านั้นที่เคยได้ไปสัมผัสเกมลีกระดับโลกอย่างลาลีก้า (ลีกสูงสุดของสเปน) กับทีมอย่างอัลมาเรีย

ย้อนไปในปี พ.ศ.2516 วิทยาเริ่มลงแข่งฟุตบอลอย่างจริงจัง โดยลงแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทยครั้งที่ 7 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้กับทีมฟุตบอลเขต 5 จังหวัดลำพูน จนได้รับเหรียญรางวัลชนะเลิศพร้อมตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำรายการอีกด้วย และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนังของเด็กจากลำพูนรายนี้ โดยเขาเริ่มเล่นฟุตบอลระดับสโมสรกับทีมฮากกาและราชประชาไล่มาตามลำดับ

ฝีเท้าของวิทยาค่อยๆถูกเจียระไนขึ้นมาทีละนิด จนเขามองว่าความท้าทายในประเทศนั้นอาจจะหมดลงไปแล้ว  ประกอบกับมีข้อเสนอจากทีมในประเทศญี่ปุ่นอย่างยันม่าร์ ดีเซล(เซราโซล โอซาก้า ในปัจจุบัน) ยื่นเข้ามาพอดี ก็ไม่เป็นที่ลังเลสำหรับวิทยาที่จะตอบตกลงและโยกไปค้าเเข้งบนแผ่นดินซามูไรเพื่อหาความท้าทายใหม่ให้กับตนเอง แต่วิทยาก็อยู่ยันม่าร์ได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียวแต่ก็มีผลงานที่ไม่เลวด้วยการลงเล่น 33 นัด และยิงได้ถึง 14 ประตู

หลังจบฤดูกาล ยันม่าร์ ดีเซล พยายามจะต่อสัญญากับวิทยาด้วยการยื่นสัญญาระยะเวลา 5 ปี พร้อมค่าเหนื่อยก้อนโตให้วิทยาพิจารณา แต่วิทยาก็บอกปัดข้อเสนอของทีมจากญี่ปุ่นไป เพราะเขามีความฝันที่ทะเยอทะยานมากกว่าการค้าแข่งในเอเชีย ความจริงคือเขาอยากไปค้าแข้งในลีกยุโรป เพราะวิทยาเคยเปิดใจว่าสมัยเด็ก ๆ เขามักวาดรูปตัวเองลงเล่นท่ามกลางคนดูหลักหมื่นคนที่ยุโรปอยู่เสมอ นั่นเป็นความฝันที่เขาอยากจะไปเหยียบสักครั้งในชีวิต

การไม่ยอมต่อสัญญากับยันม่าร์ ดีเซล ทำให้วิทยากลายเป็นนักเตะที่ไร้สังกัด และเขาก็เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยแบบไร้จุดหมาย เมื่อกลับมาถึงแผ่นดินเกิดสักพักเขายอมรับกับตัวเองว่าได้ตัดสินใจพลาดไปแล้ว ทว่าฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมของเขายังเป็นตัวฉุดให้เขากลับมายอดเยี่ยมได้อีกครั้งเมื่อทีมชาติไทยมีคิวต้องอุ่นเครื่องกับทีม ฟอร์ทูน่า โคโลญจน์(เยอรมนี) บาร์เซโลน่า(สเปน) และเอสปันญอล(สเปน) แมตช์อุ่นเครื่องดังกล่าวคือจุดเปลี่ยนชีวิตของวิทยาไปตลอดกาล

เพราะหลังจบการแข่งขันในนัดแรกกับโคโลญจน์ อยู่ดี ๆ ก็มีแมวมองของทีมแฮร์ธ่า เบอร์ลิน(เยอรมนี) ดอดมาหาวิทยาที่สนามซ้อมพร้อมนำของที่ระลึกมามอบให้และถามเขาว่าอยากไปเล่นฟุตบอลที่เบอร์ลินไหม วิทยาตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรเลยว่าไปแน่นอน และในปี พ.ศ.2522 วิทยาก็ได้กลายเป็นนักเตะของแฮร์ธ่า เบอร์ลิน อย่างเต็มตัว ซึ่งขณะนั้นเยอรมนีถูกแบ่งเป็น 2 ขั้ว คือ ฝั่งตะวันออกและตะวันตกด้วยภาวะสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

วิทยา เด็กจากลำพูนในวัย 25 ปี กำลังจะไปเผชิญหน้ากับลีกฟุตบอลสุดแกร่ง มิหนำซ้ำนอกสนามก็ยังมีเรื่องที่เขาต้องกังวลคือสงครามนั่นเอง วิทยาเปิดเผยว่าหลังเหยียบแผ่นดินเยอรมนีครั้งแรกเขาต้องนั่งรถจากเยอรมนีตะวันตกเข้าไปยังเยอรมนีตะวันออก โดยรถยนต์จะได้รับการอนุญาตให้ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ถนนเป็นเส้นตรงไม่มีทางเลี้ยวข้างทางเป็นทุ่งข้าวบาร์เล่ย์ ใครคิดหนีข้ามกำแพงไปก็จะโดนยิงทิ้งทันที ซึ่งเป็นการนั่งรถไปด้วยความหวาดกลัวไม่น้อย

เมื่อถึงเบอร์ลินวิทยาถูกส่งไปซ้อมกับทีมสำรองร่วมเดือน แต่ฮันส์ กุสต๊าฟ เอเดอร์ (โค้ชทีมสำรองขณะนั้น) บอกกับ   คูโน่ คล็อตเซอร์ โค้ชทีมชุดใหญ่ว่า วิทยาเล่นดีกว่าเด็กคนอื่นที่ถูกดันขึ้นทีมสำรองก่อนหน้านั้น เขาจึงถูกส่งไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ด้วยความเป็นเอเชียจึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อมั่นจากเพื่อนร่วมทีมมากนัก ประกอบกับการแข่งขันภายในทีมค่อนข้างสูง และถ้าใครได้ลงสนามเป็นตัวจริงก็จะได้รับเงินโบนัสเยอะมากต่อการแข่ง 1 แมตช์

วิทยาจึงถูกเพื่อนร่วมทีมไล่เตะในสนามซ้อมเป็นประจำเพราะถูกมองว่าเป็นจุดอ่อน แต่เขาก็กัดฟันผ่านพ้นการรับน้องสุดโหดนั้นมาได้ หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ความฝันของวิทยาก็เป็นจริงเมื่อเขาถูกส่งลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกสูงสุดของเยอรมนี และเกมนั้นก็จบลงด้วยชัยชนะของเเฮร์ธ่า เบอร์ลินอีกด้วย แต่ชีวิตก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบซะทีเดียวเมื่อจบฤดูกาลแฮร์ธ่า เบอร์ลินต้องกระเด็นตกชั้นไปเล่นในลีกรองของเยอรมนี

โค้ชมีการเปลี่ยนตัวและก็เป็นโชคร้ายของวิทยาที่โค้ชคนใหม่ของแฮร์ธ่า เบอร์ลิน เกลียดคนไทยมาก เพราะเขาเคยมาเมืองไทยเเละโดนขโมยกล้องถ่ายรูปไป ทำให้วิทยากลายเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเพียง 1 เดียวที่ต้องรองรับความเกลียดชังนั้น วิทยาถูกกลั่นแกล้งสารพัด และครึ่งฤดูกาลหลังวิทยาก็ถูกจับดองไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียว เนโร ดิ มาร์ติโน่ โค้ชผู้รักษาประตูชาวอิตาเลียนของแฮร์ธ่า เบอร์ลิน เห็นความพยายามของวิทยา

จึงได้เคยชักชวนให้วิทยาย้ายไปร่วมทีมนาโปลี ที่อยู่ในอิตาลี แต่วิทยาก็ตอบปฏิเสธไปด้วยเหตุผลที่ไม่อยากจะปรับตัวใหม่อีกแล้ว และก็ไม่รู้ด้วยว่านาโปลีตั้งอยู่ตรงไหนของมุมโลก แต่พอมารู้ภายหลังว่าสภาพอากาศของนาโปลีคล้ายกับที่เอเชียมีแสงแดดตลอด ไม่ต้องอยู่กับหิมะเป็นส่วนใหญ่ทำให้วิทยายอมรับว่าเขาตัดสินใจผิดพลาด และอีกความผิดพลาดตอกย้ำเขานั่นก็คือ ดิเอโก้ มาราโดน่า ย้ายมาร่วมทีม นาโปลี ใน 2 ปี ถัดมา นับจากที่วิทยาไม่รับข้อเสนอจากนาโปลี

นั่นหมายความว่าถ้าเขาย้ายไปนาโปลีในวันนั้น เขาอาจจะได้เป็นเพื่อนร่วมทีมของสุดยอดนักเตะอย่างดิเอโก้ มาราโดน่า ก็อาจเป็นไปได้

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน