วิษณุเผย กิจกรรมทางการเมืองถูกปลดล็อกหมดทุกอย่างแล้ว พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามสะดวกแต่ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ ย้ำรัฐบาลไม่เคยสั่ง กกต. กรณีตัดโลโก้และชื่อพรรคออกจากบัตรเลือกตั้ง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่ง คสช.ในการปลดล็อกกิจกรรมของพรรคการเมือง ว่า “วันที่ 11 ธ.ค.นี้เป็นวันแรกที่พรรคการเมืองทั้งหมดจะสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทุกอย่าง ส่วนที่ต้องแก้ไขคำสั่งทั้ง 9 ฉบับนั้น มีคำสั่งที่เกี่ยวกับเรื่องกิจกรรมทางการเมืองเพียง 2 ฉบับ ส่วนที่เหลือเกี่ยวกับการรายงานตัวและเรื่องธุรกรรมทางการเงิน
ขณะนี้พรรคการเมือง สามารถลงพื้นที่พบปะกับประชาชนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีหาเสียงนั้น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ระบุว่าการหาเสียงจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมาเสียก่อน ส่วนจะหาเสียงอย่างไรให้เป็นไปตามวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนด
ดังนั้นในช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมา พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ และไม่ถือว่าเป็นการหาเสียง ซึ่งถ้าจะบอกว่าตอนนี้ยังคงห้ามหาเสียงก็เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะหากพบว่าหาเสียงแล้ว ก็ยังไม่มีกฎหมายอะไรมาห้ามไว้ เอาเป็นว่า สิ่งที่เรียกว่าหาเสียง จะเริ่มก็ต่อเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง นับแต่วันนี้พรรคการเมืองจะขึ้นป้าย คัตเอาต์อะไรก็สามารถทำได้
ข่าวน่าสนใจ:
แต่เมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ก็ต้องเอาลง ตอนนี้ถือว่าทำกิจกรรมทุกอย่างได้ ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น เรื่องรักษาความสะอาด, ความเป็นระเบียบ และความสงบเรียบร้อย”
และเมื่อถูกนักข่าวถามย้ำว่า”คำสั่งปลดล็อกฉบับนี้ ถือว่าเป็นการปล่อยผีให้พรรคการเมืองใช่หรือไม่” นายวิษณุ กล่าวต่อว่า แล้วแต่จะเรียก เพราะสถานการณ์ตอนนี้ปลดล็อกทุกอย่างแล้ว และถือว่าดีกว่าช่วงที่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งเสียอีก เพราะต้องเข้าไปอยู่ในกฎเกณฑ์ตามกฎหมาย
ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรีที่ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีกฎหมายอะไรกำหนดให้ลาออก แต่ต้องระวังตัว หากถามข้อกฎหมายว่าไม่จำเป็นต้องลาออกจนกว่าจะมีรัฐบาลใช่หรือไม่ ก็บอกว่าใช่ แต่ในความเป็นจริงมนุษย์เราไม่ได้อยู่ได้ด้วยข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่อยู่ด้วยอะไรอีกหลายอย่าง ยังมีเรื่องสังคม ความเหมาะสม ที่ต้องหาทางเอาตัวรอดกันเอง ถ้าถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่ผิด แต่เหมาะสมหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะเมื่อจับเรื่องนี้มาพูดแล้ว ก็ต้องดูวัน ดูเวลา หรือที่เรียกว่า กาลเทศะ นั่นเอง
ส่วนข้อกังวลเรื่อง”การตัดโลโก้และชื่อพรรคการเมืองออกจากบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความสับสน” นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กกต. ยืนยันรัฐบาลไม่เคยพูด ไม่เคยสั่งอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเหตุการณ์ในการประชุมระหว่าง คสช.กับพรรคการเมือง มีคนพูดถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความสับสนเรื่องบัตรเลือกตั้งที่แต่ละเขตใช้เบอร์ไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรี จึงได้กล่าวสรุปตอนจบว่า
หากกลัวว่าจะจำเบอร์ไม่ได้ ควรหาทางจำให้ได้ ซึ่งต้องเป็นเรื่องของผู้สมัครเองที่ต้องช่วยรณรงค์เรื่องนี้ให้ด้วย ส่วนที่ฝ่ายการเมืองเสนอให้แก้ไขมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ หากจะยื่นเรื่อง คงต้องยื่นมาที่ คสช. ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ปัญหา หากใช้กระบวนการตามกฎหมายปกติจะยากลำบาก เนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทำได้ แต่เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: