เปิดใจแรงบันดาลใจ เอสซีจี นำ 3 โปรกอล์ฟหญิงไทย “โปรโม” “โปรเม” และ”โปรเมียว” สู่ความสำเร็จ ย้ำ เคล็ดลับสำคัญ คือ ไม่ยอมหยุดที่จะเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาตัวเองเสมอ
เอสซีจี และคอตโต้ ชวนสามโปรกอล์ฟหญิงไทย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล และ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์ต์นฤการ ร่วมแชร์ประสบการณ์ ส่งต่อแรงบันดาลใจในงาน “Follow Your Passion” ผ่านความรักกีฬากอล์ฟจากรุ่นสู่รุ่น มุ่งพัฒนาตัวเอง เพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งกว่าเดิมในทุกวัน พร้อมความเชื่อมั่นในศักยภาพของนักกีฬาไทยที่เอสซีจี เดินหน้าสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสานฝันเยาวชนไทยสู่ความสำเร็จในระดับโลก
สำหรับในปี 2561 นับเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของวงการกอล์ฟไทย ภายหลัง “โปรโม” โมรียา ทำผลงานได้อย่าง น่าประทับใจ เป็นโปรกอล์ฟไทยคนที่สอง ที่สามารถคว้าแชมป์อาชีพรายการแรกจากการแข่งขัน LPGA TOUR ใน “Hugel-JTBC LA Open” ได้สำเร็จ พร้อมทั้งยังก้าวขึ้นเป็นโปรกอล์ฟหญิงมืออันดับ 19 ของโลกด้วย
รวมทั้งอีกหนึ่งความสำเร็จที่ถูกกล่าวถึงในระดับโลก และได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ LPGA ประจำปี 2561 มาได้ถึง 6 รางวัล สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมอีกหนึ่งนักกอล์ฟสาวไทย “โปรเมียว” ปาจรีย์ ที่ก้าวตามความฝันคว้าสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันใน LPGA ในปีหน้าได้สำเร็จอีกด้วย
“โปรโม” โมรียา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้โฟกัสแค่เวลาที่ตนเองประสบความสำเร็จ แล้วสามารถคว้าแชมป์ได้เท่านั้น แต่ตนภูมิใจกับสิ่งที่ได้ตั้งใจพยายามทำมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินมาถึงเป้าหมายที่ได้ฝันไว้นั้น ตรงนั้นคือสิ่งสำคัญ คือทางที่เราเดินมา และสิ่งที่เราเชื่อ
โดยทำมันไปเรื่อยๆแบบไม่ย่อท้อ จนถึงเวลาที่สิ่งเหล่านั้นแสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อม ความคิด ทัศนคติ และการเล่นของเราเอง ความกระหายของตนนั้นคืออยากเป็นนักกอล์ฟที่พร้อมเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นตลอดเวลา
ซึ่งตนเองนั้นจะพยายามตามหาวิธีในการเล่นที่ดีที่สุด เพื่อทำในสิ่งที่เรารักให้ดีที่สุด มีแผน และแน่วแน่กับสิ่งนั้น จนกว่าจะได้มาในสิ่งที่ตั้งใจไว้ หลายสิ่งที่คิดว่าเราทำได้แล้ว ตนเองยังเชื่อว่าเรายังสามารถพัฒนาให้ดีได้มากกว่านี้อีกเสมอ
ด้าน”โปรเม” เอรียา กล่าวต่อพี่สาวของตนว่า สำหรับตนเองนั้นรู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้แชมป์ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าปีหน้าอาจจะดีมากๆ หรือว่าเป็นอย่างไรก็ได้ ตนเองนั้นรู้แค่ว่าต้องพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชีวิตที่จะมีความสุขคือการไม่ยึดติดอยู่กับการประสบความสำเร็จในอดีต
และไม่กังวลกับอนาคตมากจนเกินไปจนเกิดความกลัว และทำอะไรออกมาได้ไม่ดีสักอย่าง การรักษาอันดับ 1 คือการมองที่ผลลัพธ์ ซึ่งทำได้ยากมากๆ แต่การที่จะรักษาการเล่นให้ดีอยู่แล้วให้ดีต่อไปเรื่อยๆนั้น คือความคิดที่ดี และการบริหารจัดการตัวเองที่ดี เช่น ไม่หยุดซ้อม ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เพราะคิดว่าทำได้ดีแล้วนั้น
ตนเองคงไม่รู้สึกภาคภูมิใจถ้าหากไม่ได้เป็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยคิดไว้ว่าอยากจะเป็น ความกระหายของตนเองในตอนแรกนั้นคือการดูแลครอบครัวของเราให้ดีที่สุด พอมาถึงจุดนี้มันก็เกินเป้าหมายที่ได้คิดไว้แล้ว
ตอนนี้คือคิดจะทำอย่างไรให้อาชีพนักกอล์ฟ หรือสิ่งที่เรามี สามารถไปช่วยพัฒนาคนอื่นได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความฝันที่เราอยากทำ และเป็นแรงผลักดันให้เรามีพลังในการลงเล่นครั้งต่อๆไป
ส่วน”โปรเมียว” ปาจรีย์ ให้ความเห็นทิ้งท้ายไว้ว่า ตอนที่ตนเองได้เข้ามาสัมผัสกับกีฬากอล์ฟ ได้เจอรุ่นพี่คนอื่นๆ อย่าง”โปรโม” หรือ”โปรเม” เป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากก้าวมาเป็นนักกอล์ฟอาชีพ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รู้ว่าเราสามารถพัฒนาศักยภาพต่อไปได้ มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น และครอบครัวก็พร้อมสนับสนุนในทุกทาง
ซึ่งความกระหายและจุดมุ่งหมายของตนเองนั้นเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะมีเหตุผลของมัน เวลาที่เจออุปสรรคจะบอกตัวเองเสมอว่าเราไม่อยากหยุดอยู่แค่ตรงนี้ กลับมาคิดทบทวนตัวเอง และอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยที่เราต้องพร้อมเรียนรู้ ยอมรับในสิ่งที่เป็น และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
สำหรับเป้าหมายของทั้งสามนักกอล์ฟที่ตั้งไว้ในปีหน้า คือการมุ่งหวังพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ “โปรเม” หวังจะมีทัศนคติที่ดีในสนามกอล์ฟเสมอเหมือนเดิม และคอยกลับมาทบทวนตัวเองเพื่อออกไปแข่งขันใหม่แบบไม่มีความกลัว
ขณะที่”โปรโม” ตั้งใจแบ่งซอยเป้าหมายของตัวเองให้เป็นเป้าหมายเล็กๆและทำตามที่ตั้งไว้ได้ในทุกๆวัน ทางด้าน”โปรเมียว” เป้าหมายคือไม่ใช่เพียงแค่ติดอันดับ 1-10 ของโลก ที่อยากจะไปให้ถึงเท่านั้น แต่การเลือกเล่นในแต่ละช็อต อยู่กับปัจจุบันให้มาก และใช้ช่วงเวลาที่ปิดฤดูกาลฝึกซ้อมให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
