ชาวประมงพื้นบ้านโวย คสช.ออกกฏหมาย ม.34 จำกัดพื้นที่ทำประมงห่างชายฝั่งไม่เกิน 3 ไมล์ทะเลทำกระทบการประกอบอาชีพ ด้านอธิบดีกรมประมงย้ำไม่ได้บังคับใช้กฏหมายเข้มงวด ขอชาวประมงพื้นบ้านคุมจำนวนกันเองสร้างสมดุลการจับสัตว์น้ำ ส่วน ส.รักษ์ทะเลไทยแนะชาวประมงพื้นบ้านรวมกลุ่มสร้างอำนาจต่อรอง
กรมประมงจัดประชุมสมัชชาวประมงพื้นบ้านประเทศไทยประจำปี 2561 โดยภายในงานมีการจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ “ทิศทางชาวประมงพื้นบ้านไทยในอนาคต” โดยวงเสวนาประกอบด้วย นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง, นายบรรจง นะแส ประธานที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย, นางสาวสุวรรณา หลั่งน้ำสังข์ ตัวแทนบริษัทสังคมสุขภาพ และนายเจริญ โต๊ะอิแต ชาวประมงพื้นบ้าน ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นในวงเสวนา
ประมงพื้นบ้านโวย ม.34 กระทบการประกอบอาชีพ
นายเจริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวประมงพื้นบ้านโดนผลกระทบเรื่องการออกกฎหมายของรัฐบาล คสช. ในมาตรา 34 มาตลอด แต่ชาวประมงพื้นบ้านก็พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ถึงปัญหา และช่วงหลังปัญหาก็เริ่มถูกแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากนายกสมาคมประมงโดยให้ชาวประมงเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาสัตว์น้ำในทะเลก็มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ
ชาวประมงพื้นบ้านจึงได้ร่วมกลุ่มกันอนุบาลสัตว์น้ำให้เพิ่มขึ้น โดยมีการหาพื้นที่ที่จะทำโครงการนี้ให้ได้ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย และหลายพื้นที่ที่ได้ลงไปทำงานเรื่องการอนุบาลสัตว์น้ำก็เริ่มมีจำนวนสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว จึงคิดว่าการดำเนินงานที่ได้ร่วมมือกันของชาวประมงเดินมาถูกทางและออกผลแล้ว ซึ่งจะมีธนาคารปูที่ จ.นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่สนับสนุนชาวประมงพื้นบ้านให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยส่วนตัวอยากให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการร่วมกันแก้ไขปัญหาจากทุกฝ่ายไม่ใช่เพียงแค่ชาวประมงเท่านั้น เพื่อเป็นการรักษาความอุดมสมบูรณ์ในท้องทะเลไทย ขณะที่ชาวประมงพื้นบาลก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่จับสัตว์น้ำที่ยังไม่โตเต็มวัยเพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ในท้องทะเลอีกทาง แต่บางรายก็ยังคงละเลยเรื่องดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่อยากจะฝากให้ชาวประมงรายอื่นมีจิตสำนึกด้วย
สำหรับปัจจุบันกฎหมายมาตรา 34 ไม่ได้บังคับใช้มากเท่าไรนัก แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่เพราะยังไม่ได้มีการแก้ไขอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่อธิบดีกรมประมงก็เล็งเห็นถึงวิถีชีวิตประมงจึงไม่ได้เข้มงวดมากนัก ขณะที่ทะเบียนเรือเป็นสิ่งที่ชาวประมงอยากเรียกร้องเพราะต้องจ่ายภาษีให้รัฐบาลถ้าไม่มีทะเบียนก็ผิดกฎหมายจึงอยากทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย
กรมประมงวอนประมงพื้นบ้านคุมจำนวนกันเองเพื่อรักษาสมดุลการจับสัตว์น้ำ
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าสัตว์น้ำในทะเลนั้นมีจำนวนไม่จำกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแล ขณะเดียวกันใครก็ยังสามารถไปจับสัตว์น้ำในทะเลได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือชาวบ้านที่เป็นเรือเล็กก็แย่งกันจับสัตว์น้ำเป็นเหตุให้ในทะเลมีสัตว์น้ำจำนวนลดลง จุดสำคัญที่สุดคือจำนวนสัตว์น้ำมีจำกัด ขณะนี้กรมประมงได้ควบคุมการจับปลาของฝั่งพาณิชย์ ซึ่งชาวบ้านต้องมาจัดการกันเองแล้วว่าจะแบ่งการจับอย่างไร
ส่วนมาตรา 34 เรื่องจำกัดระยะทางออกทะเล วันนี้กรมประมงคุมชัดไม่ให้เรือใหญ่เข้ามาใกล้ฝั่ง แต่เรือเล็กก็ยังคงแย่งกันจับปลา ส่วนกรณีที่ไม่ให้ใบอนุญาตชาวประมงพื้นบ้านเพราะไม่อยากเป็นการเพิ่มภาระให้กับชาวประมง แต่ไม่ได้บอกว่าออกให้ไม่ได้ ทุกวันนี้กลุ่มชาวประมงก็เข้มแข็งขึ้นมากคุมน่านน้ำในเขตตัวเองไว้ แต่ก็ไม่สามารถคุมเรือจากเขตนอกได้ ถ้าศึกษากฎหมายดีๆทำได้แต่ต้องตกลงกันให้ชัดเจน
ซึ่งชาวประมงต้องเข้าใจกฏหมายอย่างดีเสียก่อน ขณะที่เรื่องทะเบียนเรือชาวประมงนั้นจะต้องวัดเรือให้ชัดเจนว่ามีขนาดต่ำกว่า 10 ตันจริงหรือไม่ถ้าน้ำหนักเกินที่ควบคุมไว้ มันคือเรือพาณิชย์จะต้องมีใบอนุญาตเรือประมงพาณิชย์ด้วย ดังนั้นกรมประมงจึงต้องขอเวลาจัดการหารือว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องเรือประมงที่ไม่มีทะเบียนอย่างไร ซึ่งกรมประมงไม่อยากบังคับใช้กฏหมายที่เคร่งคัดไปเสียทุกอย่างไม่อย่างนั้นจะทำให้ชาวประมงเดือดร้อน
แต่ขณะเดียวกันชาวประมงพื้นบ้านก็ต้องควบคุมจำนวนชาวประมงไม่ให้มีการเพิ่มขึ้นด้วย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะทำให้การแย่งกันจับสัตว์น้ำเป็นไปอย่างดุเดือด ต่อให้มีสัตว์น้ำที่ถูกอนุบาลเพิ่มจำนวนขึ้นมากก็ตามแต่ก็อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงอยากให้ชาวประมงพื้นบ้านเข้ามาร่วมกับกรมประมงและใช้กฎหมายร่วมกัน ออกใบอนุญาตเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคในสังคม ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเริ่มต้นเพื่อเดินไปด้วยกันในอนาคต
แนะประมงพื้นบ้านรวมกลุ่มเพื่ออำนาจต่อรอง
ด้านนายบรรจง เผยว่า ในจำนวนชาวประมงท้องถิ่นขณะนี้เหมือนกับเพิ่งตั้งไข่เท่านั้น ซึ่งแต่ละรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยพูดถึงชาวประมงพื้นบ้านเลย นโยบายที่ผ่านมาก็พูดถึงแต่ประมงพาณิชย์ นี่คือปัญหาที่ชาวประมงพื้นบ้านไม่ยอมจัดตั้งและรวมกลุ่มกันขึ้นมาเสียที ซึ่งประมงพาณิชย์มีการรวมกลุ่มและจัดตั้งกันมายาวนานกว่า ปัญหาวันนี้คือการจัดตั้งและรวมตัวเพื่อแสดงตัวตนต้องมีการจัดตั้งให้เกิดความครอบคลุม
แต่ถ้าเป็นนโยบายของกรมประมงประกาศไปเลยว่าให้มีการจัดตั้งกลุ่มประมงพื้นบ้านจะเป็นไปได้รวดเร็วมากขึ้น นี่คือภารกิจที่ต้องร่วมคุยกันเพื่อไม่ให้เป็นการทิ้งพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านอยู่ด้านหลัง ส่วนทิศทางในอนาคตเป็นเรื่องใหญ่เพราะคนที่ทำอาชีพประมงไม่มีอาชีพทดแทนที่สามารถสร้างรายได้ เพราะมีแต่ทะเลเท่านั้น จึงเป็นโจทย์ใหญ่ในการแก้ไขปัญหา ตราบใดที่คนในสังคมยังชอบกินกุ้งหอยปูปลา
อาชีพประมงต้องมีอนาคต ดังนั้นจึงต้องมีแนวร่วมในการฟื้นฟูทะเลซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย และนโยบายต้องมีการร่วมมือกันกับเหล่าข้าราชการ ส่วนเรื่องกฏหมายเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องออกกฏหมายที่เชื่อมโยงกับนโยบายให้ได้เพื่อให้กฏหมายสามารถนำไปใช้จริงได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือชาวประมงพื้นบ้านจะต้องจัดตั้งและรวมกลุ่มกันให้เป็นขนาดใหญ่ให้ได้เพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าในภาคธุรกิจต่างๆก็มีการรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสมาคมนำไปสู่การต่อรองการค้าและเรื่องต่างๆ มากมาย
แนะชาวประมงพื้นบ้านใช้จุดเด่นสร้างฐานลูกค้าเพิ่มราคา
ขณะที่นาวสาวสุวรรณา หล่นความเห็นทิ้งท้ายว่า ชาวประมงพื้นบ้านต้องหาทางออกแบบใหม่ และควรหาแนวร่วมให้มากขึ้น สร้างอนาคตให้คนรุ่นใหม่ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยต้องสื่อไปให้ถึงคนข้างนอกที่ไม่ได้คลุกคลีกับชาวประมงได้เข้าใจวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน ซึ่งผู้บริโภคยุคนี้สนใจเรื่องการเอาใจใส่สุขภาพ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของชาวประมงที่นอกจากจะจับปลาแล้วจะทำอย่างไรให้ถ่ายทอดเรื่องราวของชาวประมงท้องถิ่นออกมา
โดยที่ชาวนาเคยทำสำเร็จมาแล้ว แต่เป็นเรื่องที่ชาวประมงท้องถิ่นยังไม่ได้เริ่มขึ้นเลย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะถ่ายทอดเรื่องที่ตัวเองทำไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อผ่านโซเชียลมีเดีย หรือหากิจกรรมให้คนภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆของชาวประมงพื้นบ้าน ให้คนข้างนอกอินกับวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน ฉะนั้นการสร้างแฟนคลับเป็นเรื่องสำคัญ
และคุณภาพความสะอาดปลอดสารพิษต้องควบคู่กันไปด้วย และราคาต้องเหมาะสมด้วยอย่างไรก็ตามการทำการตลาดต้องมีอย่างน้อย 2 ตลาด เพื่อดูทิศทางว่าตลาดไหนได้รับความนิยมมากกว่าเพราะผู้บริโภคก็มีความต้องการบริโภคที่ต่างกันออกไป ดังนั้นการแบ่งตลาดก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มลูกค้าให้เพิ่มจำนวนกลุ่มมากอีกด้วยซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับชาวประมงท้องถิ่นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: