ศาลรัฐธรรมนูญนั่งบัลลังก์วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ชี้การกระทำของพรรคเข้าข่ายขัดต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และ มีมติ 6 ต่อ 3 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำพิพากษาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากถูกร้องเรียน ในกรณีพรรคได้มีการเสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเข้าข่ายดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมือง
โดยบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญมีสื่อมวลชนทุกสำนักทั้งในประเทศและต่างประเทศมาปักหลักรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกันตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างหนาแน่น พร้อมกับกองเชียร์ของพรรคไทยรักษาชาติอีกกว่า 40 ชีวิต ที่เดินทางมาให้กำลังใจพรรคถึงศาลฎีกา
และเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำพรรค พร้อมด้วยทีมกฎหมายของพรรค เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม โดยเวลา 15.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัย พร้อมทั้งสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติโดยมีมติ 9 ต่อ 0
ข่าวน่าสนใจ:
โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรรคไทยรักษาชาติได้กระทำการที่ขัดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ์ทรงเป็นประมุข โดยการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ถือเป็นการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาอยู่ในที่ไม่บังควร อันอาจจะเกิดการติฉินนินทาได้จากการหาเสียงต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควร
ทั้งนี้ เมื่อมีพระราชโองการจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ลงมาทางพรรคไทยรักษาชาติก็ได้ปฏิบัติตามทันที ศาลรัฐธรรมนูญจึงเห็นควรลงโทษพรรคไทยรักษาชาติโดยการยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองกับกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวหรือไปร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองใดขึ้นมาใหม่อีก
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง จากที่ได้ฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ยืนยันว่าตนเอง และกรรมการบริหารพรรค ในฐานะพรรคไทยรักษาชาติ ยืนยันว่าได้น้อมรับพระราชโองการในวันที่ 8 ก.พ. ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม และด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
“ผมและกรรมการบริหารพรรครู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง การยุบพรรคส่งผลต่อสิทธิประชาชนขั้นพื้นฐาน อย่างน้อยก็กระทบกับสิทธิของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ผมขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ได้ให้ความเมตตากับพรรคเป็นอย่างมากถึงแม้พรรคจะมีอายุก่อตั้งเพียง 4 เดือนเท่านั้น”
คณะกรรมการบริหารพรรค 13 คน ที่ถูกตัดสิทธิ คือ
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค
น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค
นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคฯ
นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค
นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค
นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค
นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค
นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค
น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค
นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค
นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: