พรรคอนาคตใหม่ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนย่านสยามสแควร์ประชาชนต้อนรับคึกคัก ด้านนายธนาธร แจงดคีพานายรังสิมันต์หนี เป็นการเจอกันโดยบังเอิญและฝ่ายหลังได้รับการปล่อยตัวแล้ว 6 เม.ย.นี้เตรียมเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ชี้แจงข้อกล่าวหา
ช่วงเย็นวันนี้(4เม.ย.) พรรคอนาคตใหม่จัดกิจกรรมเดินขอบคุณประชาชนที่สยามสแควร์นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำพรรค ร่วมกันลงพื้นที่ย่านสยามสแควร์ ขอบคุณทุกคะแนนโหวตจากประชาชน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนวัยรุ่นแห่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากพร้อมกับกองทัพสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอทำข่าวหนาตาเช่นเคย
หลังการเดินขอบคุณประชาชนนายธนาธรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาลงพื้นที่ย่านสยามสแควร์เพื่อขอบคุณคะแนนโหวตจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนี้จะไล่เดินสายขอบคุณทุกพื้นที่ให้ครบ แต่ต้องดูเวลาและโอกาสอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีที่มีการเสนอว่าตนเองได้นำรถตู้พานายรังสิมันต์ โรม หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ในปี 58 วันเสาร์ที่ 6 เม.ย. นี้ตนเองก็จะเดินทางไปที่ สน.ปทุมวันตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความจริงใจและจะไม่หนีไปไหน
ตนเองทราบคดีจากข่าวแต่ไม่ทราบรายละเอียดเพราะเรื่องเกิดขึ้นใน เดือน มิ.ย.58 ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มนักศึกษาที่ออกมารนรงค์ครบรอบ 1 เดือนแห่งการรัฐประหาร จากนั้นก็โดนคดี ซึ่งหลังจากนั้นก็มีประชาชนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปให้กำลังใจที่ สน.ปทุมวัน ตนเองทราบเรื่องก็เดินทางไปให้กำลังใจบริเวณหน้า สน.ปทุมวันด้วย พอเข้าสู่ช่วงดึกนักศึกษาที่โดนเจ้าหน้าที่คุมตัวก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาจาก สน.ปทุมวัน ก็เป็นจังหวะบังเอิญที่ตนเองได้พบ กับนายรังสิมันต์ ช่วงกลางดึกหลังถูกปล่อยตัวออกมาพอดี จึงอาสาไปส่งนายรังสิมันต์เท่านั้น
ส่วนรถตู้ที่พานายรังสิมันต์ ไปส่งตนนั้นจำไม่ได้ว่าเป็นของใคร แต่น่าจะเป็นรถของบริษัท ตนยืนยันว่าไม่กลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และพร้อมรับทุกสถานการณ์ แต่อยากขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาอย่างเป็นธรรม เพราะนานรังสิมันต์ เดินออกมาจาก สน. ปทุมวันอย่างปกติ นั่นก็แสดงว่าเขาได้รับความอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวออกมาแล้ว ดังนั้นตนก็พร้อมชี้แจงและไม่กังวล
ตนเองมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการกระทำของฝ่ายเผด็จการ คิดว่ามีความเป็นไปได้ 2 อย่างที่ฝ่ายเผด็จการอยากให้เกิดขึ้นคือต้องการเบี่ยงเบนสังคมให้ไม่สนใจเรื่องการนับคะแนนที่ผิดปกติของ กกต. และต้องการทำลายพรรคอนาคตใหม่ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค กำลังใจยังเข้มแข็งดีกรณีโดนโจมตีเรื่องมาตรา 112 และยังคงเป็นกำลังสำคัญของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป ส่วนเรื่องประชาชนที่ไปล่ารายชื่อถอดถอนนายปิยบุตร ไม่ให้เป็น สส. นั้นตนมองว่าคนที่ไปล่ารายชื่อมีจำนวนน้อยกว่าจำนวนประชาชนที่ถอดถอน กกต. ให้ออกจากตำแหน่งเสียอีก
นั่นหมายความว่าประชาชนกำลังอยากให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตย
การใช้เรื่องสถาบัน และเรื่องนายทักษิณ ชินวัตรมาโจมตีกันทางการเมืองถือเป็นเรื่องเก่า ประเทศควรโฟกัสเรื่องต่างๆที่รอการแก้ไขอีกมากมาย พรรคอนาคตใหม่ต้องการพาประเทศเดินไปข้างหน้า
สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ถ้ายึดเอาความเป็นธรรมมีสูตรเดียวเท่านั้นคือนำจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดสาหารจำนวน ส.ส. ทั้งหมด ซึ่งกกต. ควรรู้สูตรก่อนการเลือกตั้งเสียด้วยซ้ำ ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังรออยู่ว่า กกต.จะเอาอย่างไรกับสูตรการคำนวณจำนวน ส.ส. แต่ถ้าช้าก็จะเป็นผลเสียกับประเทศแน่นอน
