เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองยื่นหนังสือเรียกร้อง กกต.เปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง, เปิดเผยการคิดสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และถอนฟ้องประชาชนที่ลงชื่อถอดถอน กกต.
ช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. กลุ่มเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง(คนส.) เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ กกต. พาสังคมไทยออกจากวิกฤติด้วยการเปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง เปิดเผยการคิดสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และถอนฟ้องประชาชนที่ลงชื่อถอดถอน กกต.
นายอนสุรณ์ อุณโณ ตัวแทนเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤตมากว่า10 ปี และยังไม่มีแนวโน้มจะยุติโดยง่าย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการไม่เคารพในกติกาหรือไม่ฟังเสียงของประชาชนจากผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ การทำรัฐประหารของรัฐบาลทหารที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่เพียงแต่ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาหรือว่าความขัดแย้งได้
หากแต่ยังเป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลให้วิกฤติหยั่งลึกและขยายวงกว้างขึ้นในสังคมไทนอีกด้วย ดังนั้นการกลับคืนสู่สภาวะปกติที่กติกาและเสียงของประชาชนเป็นที่เคารพเท่านั้นที่จะช่วยให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ได้ และมีแต่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเท่านั้นที่จะเป็นประตูพาประเทศไทยไปสู่นิติรัฐและนิติธรรม
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมานอกจากจะไม่ช่วยให้ประเทศไทยพ้นสภาวะวิกฤติตามที่ควรจะเป็นแล้ว กลับยิ่งซ้ำเติมให้วิกฤติรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีข้อพิรุธและก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิที่ไม่ตรงกับบัตรลงคะแนน
จำนวนคะแนนร้อยละห้าสุดท้ายที่ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนหน่วยเลือกตั้ง หรือว่าวิธีการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่ผิดหลักการรวมทั้งอาจขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประชาชนที่เข้าชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ยิ่งสร้างความไม่พอใจในสังคมเพิ่มขึ้น
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) จึงเห็นว่าสภาพการณ์ดังกล่าวที่ กกต. มีส่วนก่อขึ้นกำลังพาสังคมไทยไปสู่จุดตีบตันหรือว่าวิกฤติระลอกใหม่ จึงมีข้อเรียกร้องต่อ กกต. ดังนี้
1.กกต. ต้องเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงวิธีการรวบรวมผลการนับคะแนน เนื่องจากผลคะแนนรวมที่ กกต. รายงานไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ และ กกต. ยังไม่ได้ชี้แจงในประเด็นนี้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ การเปิดเผยผลการนับคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งซึ่งประชาชนร่วมเป็นประจักษ์พยานจะช่วยแก้ปัญหาความเคลือบแคลงสงสัยได้ หากผลคะแนนไม่ตรงกัน กกต. ก็ต้องนับใหม่ให้สิ้นข้อสงสัย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับผลคะแนนรวมในที่สุด
2.กกต. ต้องเปิดเผยวิธีการและขั้นตอนการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อโดยละเอียดอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเลือกตั้งที่สาธารณะควรได้รับทราบและตรวจสอบความถูกต้องโปร่งใสรวมทั้งใช้ในการประกอบการตัดสินใจตั้งแต่ต้น การแถลงข่าวของ กกต. ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ระบุวิธีการลงคะแนนที่ชัดเจนยิ่งก่อให้เกิดข้อกังขาว่าอาจมีการนำวิธีการคำนวณที่ไม่ถูกต้องมาใช้ในทางที่เอื้อประโยชน์บางฝ่าย หาก กกต. ไม่เร่งสร้างความกระจ่าง รวมทั้งไม่นำวิธีการคำนวณที่ถูกต้องที่ฝ่ายต่างๆ เสนอมาประกอบการพิจารณา การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของ กกต. ก็จะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน
3.กกต. ต้องถอนฟ้องประชาชนที่แชร์การลงชื่อถอดถอน กกต. ใน Change.org รวมถึงประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน กกต. ในลักษณะอื่น เพราะการลงชื่อและการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐและเป็นการใช้สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองตามกติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี มิได้มีเจตนาจะหมิ่นประมาท กกต. ตามที่ กกต. ฟ้องร้องแต่อย่างใด แทนที่จะใช้กฎหมาย “ปิดปาก” หรืออาศัยกระบวนการยุติธรรมคุกคามประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ กกต. ควรหักล้างข้อกล่าวหาและวิพากษ์วิจารณ์ด้วยข้อเท็จจริงและด้วยเหตุด้วยผล
นอกจากนี้การฟ้องร้องดำเนินคดีผู้แชร์การลงชื่อถอดถอน กกต. จำนวน 7 คนไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจน มีลักษณะเป็นการสุ่มเลือกภายใต้เป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป คนส. จึงได้รวบรวมรายชื่อนักวิชาการที่ลงชื่อและแชร์การถอดถอน กกต. ใน Change.org จำนวน 121 คนตามเอกสารแนบท้ายมายื่น กกต. เพื่อแสดงการสนับสนุนผู้ถูกฟ้องร้องและเรียกร้องให้ กกต. ถอนฟ้องทุกคนที่ผ่านมา หรือไม่ก็ต้องดำเนินคดีกับนักวิชาการตามรายชื่อนี้ที่พร้อมจะสู้คดีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: