X

“ปิยบุตร”แจง 8 ม.ค.”ธนาธร”ขึ้นรถตู้บุรีรัมย์กลับกทม.ช่วงบ่ายโอนหุ้น วี-ลัค

ปิยบุตร ชี้แจงกรณีโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค ของธนาธร โดยแจงว่าธนาธร ขึ้นรถตู้กลับจากบุรีรัมย์ช่วงบ่ายเพื่อมาโอนหุ้นที่ กทม. โดยมีหลักฐานเป็นใบเสร็จค่าทางด่วน เผยเตรียมหลักฐานเพื่อขอเข้าชี้แจงกับ กกต. ตั้งแต่เป็นข่าว แต่ไม่เคยได้รับการเรียกจาก กกต.ให้เข้าไปชี้แจงเลยสักครั้ง

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า นับแต่มีข่าวปรากฏออกมาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้มีการโอนหุ้นบริษัทวี- ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งนายธนาธรได้มีการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรและเผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว ชี้แจงถึงการโอนหุ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62

ถ้าเห็นหลักฐานที่นายธนาธรชี้แจงจะพบว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่ามีสื่อบางสำนักยังคงเผยแพร่ข่าวนี้ต่อไป ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบสื่อสาธารณะ แต่เวลาผ่านไปก็ยังมีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวต่อเนื่อง และยังมีการเขียนข่าวชี้นำไปในทางลบและลดความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะการที่พรรคได้รับคะแนนเสียง 6.3 ล้านสียง

มาตรฐานการทำงานของสื่อสำนักนี้มีการแบ่งการปฏิบัติในทางตรวจสอบนักการเมืองอย่างเห็นได้ชัด โดยที่ทางพรรคอนาคตใหม่โดนสื่อสำนักนี้ตรวจสอบอย่างหนักมาโดยตลอด แต่สื่อสำนักนี้กลับไม่เคยตรวบสอบนักการเมืองฝ่ายที่ตัวเองชื่นชอบเลย ซึ่งนายธนาธรตั้งใจว่าเมื่อมีกระแสข่าวเผยแพร่ไม่หยุดและมีคนไปร้องเรียนกับ กกต.

นายธนาธร ตั้งใจจะชี้แจงตามขั้นตอนกฏหมายต่อ กกต. แต่ปรากฏว่าจนถึงวันนี้ พรรคอนาคตใหม่ไม่เคยได้รับการติดต่อใด ๆ จาก กกต.ให้ไปชี้แจงเลยสักครั้ง ทั้ง ๆ ที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมตัวรวบรวมหลักฐานเพื่อจะไปชี้แจงกับ กกต. ด้วยความสัตย์จริง

โดยก่อนหน้านี้ กกต. ออกแถลงการณ์ว่ากำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ขณะเดียวกันสำนักข่าวที่นำเสนอข่าวต่อเนื่องก็เขียนข่าวกดดันให้ กกต. พิจารณาเรื่องให้เสร็จก่อน 9 พ.ค. และเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา สื่อสำนักนั้นชี้แจงว่าวันนี้ (22 เม.ย.62) จะมีการประชุมของคณะกรรมการช่วยตรวจสอบและจะมีมติวันนี้ (22 เม.ย.62) หรือพรุ่งนี้ (23 เม.ย.62)

ทั้งนี้นายธนาธร ยังไม่เคยได้รับหนังสือจาก กกต.ให้ไปชี้แจงใด ๆ แต่สำนักข่าวบางสำนักกับทราบเรื่องนี้ก่อนพรรค ซึ่งพรรคไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า กกต.ตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา โดยมาทราบภายหลังผ่านสื่อที่นำเสนอข่าว ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้วก็มีความกังวลใจว่า กกต. กำลังกระทำการที่ขัดต่อการฟังความทุกฝ่าย

เพราะหากมีความยุติธรรมต้องให้ทุกฝ่ายชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้รับโอกาสให้ไปชี้แจงจาก กกต.เลยสักครั้ง จึงได้เปิดแถลงการณ์ขึ้น ซึ่งขณะนี้นายธนาธร อยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนายธนาธรได้มอบอำนาจให้ทีมกฏหมายส่วนตัวเตรียมเอกสารไปยื่นให้ กกต. เพื่อขอโอกาสให้ กกต. ตรวจสอบอีกครั้ง และให้โอกาสพรรคอนาคตใหม่เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริง

ชี้แจงกรณีโอนหุ้น

บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด มีหนี้คงค้างชำระกว่า 10 ล้านบาทเลยไม่ได้ปิดบริษัทตามที่ได้ตั้งใจว่าจะปิดในช่วงปลายปี 61 ตามไทม์ไลน์วันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธรและภรรยาจึงโอนหุ้นให้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งมีเอกสารพยานหลักฐานไม่ว่าจะเป็นตราสารโอนหุ้น และมีโนตารี่ที่รับรองด้วยว่าเอกสารทำขึ้นจริง ที่สำคัญมีเช็คขีดคร่อมยืนยันการโอนเงินจริง

ซึ่งเป็นการโอนหุ้นที่สมบูรณ์ทางกฏหมาย มีใบหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น วันนี้(22 เม.ย.)ส่งทีมกฏหมายนำหลักฐานไปให้ กกต. เพื่อยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธรไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทวี- ลัค มีเดียอีกต่อไป

แต่ที่มีการนำเสนอข่าวว่าวันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธรอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ และจะโอนหุ้นให้นางสมพรได้อย่างไรนั้น นายปิยบุตรชี้แจงว่าช่วงบ่ายของวันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธรได้ขึ้นรถตู้กลับมาที่ กทม. โดยให้ตนเองเลี้ยงเวทีปราศรัยแทน โดยมีหลักฐานเป็นใบเสร็จค่าทางด่วนอีซี่พาสยืนยันว่านายธนาธรได้เดินทางกลับ กทม.ในช่วงบ่ายจริง

และวันที่ 9 ม.ค.62 นายธนาธร ก็ได้เดินทางไป จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งวันที่ 8 ม.ค.62 นายธนาธรค้างคืนที่บ้านพักใน กทม. และช่วงช้าของวันที่ 9 ม.ค.62 จึงได้ขึ้นเครื่องบินของไลออนแอร์ซึ่งมีตั๋วเครื่องบินยืนยันว่านายธนาธรได้ขึ้นเครื่องบินที่ กทม.จริง จึงหวังว่าสื่อบางสำนักไม่ควรตั้งคำถามต่อไปว่าทำไมนายธนาธรถึงโอนหุ้นให้นางสมพรได้

ทั้งนี้มีการออกข่าวว่านางสมพร ได้โอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ต่อให้กับ นายทวี จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิติ จึงรุ่งเรืองกิจ หลานทั้ง 2 คน เป็นเพราะบริษัทยังคงมีหนี้ค้างอีก 10 ล้านบาท จึงคิดเสียดาย และอยากเปิดโอกาสให้หลานเข้ามาลองดำเนินธุรกิจติดตามหนี้ดูบ้าง ซึ่งได้มีการโอนหุ้นกันในวันที่ 14 ม.ค. 62โดยมีหลักฐานเป็นใบหุ้นยืนยัน

และวันที่ 18 มี.ค.62 ภรรยาของนายธนาธร ขอลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เพื่อความโปร่งใส และในวันที่ 19 มี.ค.62  บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ได้มีการประชุมผู้ถือหุ้น 10 คน ซึ่งการประชุมครั้งนั้นมีผู้บริหารเข้าร่วม 4 คน เนื่องจากกฏหมายให้อำนาจให้ผู้ถือหุ้นมอบฉันทะให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นเข้าประชุมแทนได้

โดยวาระการประชุมในวันนั้น คือการแจ้งการลาออกของภรรยานายธนาธร และมีมติให้เลิกกิจการบริษัท เนื่องจากว่า นายทวี และนายปิติไม่สามารถทวงหนี้คงค้าง 10 ล้านบาทได้ เพราะลูกหนี้เป็นหนี้เสียและไม่มีความสามารถชำระหนี้ได้ จากนั้นนายปิติและนายทวี จึงโอนหุ้นหลับมาให้นางสมพรอีกครั้ง เพื่อให้มีอำนาจในการปิดบริษัทซึ่งมีเอกสารการโอนหุ้นครบถ้วนเช่นกัน และจะนำหลักฐานดังกล่าวไปยื่นให้ กกต. ด้วย  โดยเมือวันที่ 29 มี.ค.62 บริษัทได้นำรายชื่อผู้ถือหุ้นไปยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพราะ กม.หุ้นส่วนบริษัทฯ เขียนไว้ว่าในมาตรา 119 วรรค 2 ให้ส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นให้นายทะเบียนปีละ 1 ครั้ง

ดังนั้นการโอนหุ้นทั้งหลายทั้งหมดนี้จึงได้นำหลักฐานไปยื่นสำเนากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งประเด็นปัญหานี้ไม่ควรบานปลายมาจนถึงขนาดนี้ ถ้าสื่อมวลชนบางสำนักมีการเปิดใจดูหลักฐาน ไม่มุ่งหวังโจมตีนายธนาธร เพื่อไม่ให้เข้าสภา ซึ่ง กกต.ควรฟังความกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน