ไทย – กัมพูชา ยืนยันการเป็น “หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง” ในพีธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท)
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วมและกล่าวสุนทรพจน์แสดงความยินดีในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ณ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานร่วมในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ณ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว รวมทั้งเป็นโอกาสที่ได้พบเจรจากับสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกครั้งในวันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสำเร็จของการสร้างสะพานแห่งนี้ นับเป็นสะพานแห่งแรกที่มีความยาวที่สุดเชื่อมสองประเทศ เป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดมาอย่างยาวนานระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการให้สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานได้เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มต้นก่อสร้างด่านพรมแดนแห่งที่สอง ควบคู่ไปกับการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อสะพานและถนนสายหลักของกัมพูชาด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายได้เจรจาร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบการข้ามแดน เพื่อแก้ปัญหาความแออัดการจราจรบริเวณด่านพรมแดนปัจจุบันที่บ้านคลองลึก และเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าข้ามแดนใหม่ให้สะดวกขึ้น อันจะนำไปสู่การเชื่อมต่อห่วงโช่อุปทานระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษของกัมพูชาและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย และเชื่อมต่อไปยังการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกต่อไป นายกรัฐมนตรีเห็นว่า นอกเหนือจากการส่งเสริมการค้า การลงทุน และความสะดวกในการคมนาคมขนส่งระหว่างทั้งสองประเทศแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จของการทำงานร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชามากยิ่งขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เป็นการเติมเต็มเส้นทางที่ขาดหายไปภายใต้กรอบความร่วมมือในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการคมนาคมขนส่งภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมืออิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) อันจะนำไปสู่การประสานความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม สังคมและวัฒนธรรม การศึกษา การเกษตร และการท่องเที่ยว สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและเจริญเติบโตไปด้วยกัน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกระทรวงคมนาคม กรมการทหารช่างของฝ่ายไทย และกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของฝ่ายกัมพูชา ที่ได้ประสานงานจนทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนด พร้อมยืนยันว่า แนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชาจะยังคงต่อเนื่อง จริงใจ ใกล้ชิด และมั่นคงต่อไป และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในปีหน้า ไทยและกัมพูชาจะมีความสัมพันธ์ทางทูตครบ 70 ปี ซึ่งจะตรงกับความคืบหน้าในการก่อสร้างและเปิดจุดผ่านแดนแห่งใหม่นี้
อนึ่ง ในพิธีฉลองฯ นายกรัฐมนตรีได้พบปะหารือกับสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือไทยและกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมาดำเนินไปด้วยดีทุกด้าน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเป็น “หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง” ร่วมกันอย่างแท้จริง พร้อมยินดีที่จะมีการลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันในวันนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศและการขนส่งสินค้าระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค้าทางการค้าระหว่างชายแดนของทั้งสองประเทศมากขึ้น
ในระหว่างการหารือ ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพและการพัฒนาร่วมกัน ผ่านโครงการความร่วมมือต่าง ๆ เช่น การเปิดและยกระดับจุดผ่านแดน และการสร้างความเชื่อมโยงทางราง ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเด็นเขตแดนต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา โดยให้เขตแดนเป็นเรื่องเทคนิคและเจรจากันในกรอบและกลไกที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (JBC)
สำหรับด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ผู้นำไทยและกัมพูชายังหารือถึงความร่วมมือทางด้านแรงงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยอย่างเท่าเทียมกับแรงงานทุกชาติ ในการนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยังยืนยันที่จะสนับสนุนไทยในฐานะประธานอาเซียนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: