อสมท. จัดเสวนา หัวข้อ “เจาะอนาคต ตอบโจทย์ประเทศไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา 66 ปี อสมท. โดยคุณเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท, คุณสุทธิชัย หยุ่น และคุณวีระ ธีรภัทร ร่วมวิเคราะห์ทิศทางและอนาคตประเทศไทยทุกมิติ
บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) จัดงานเสวนา หัวข้อ “เจาะอนาคต ตอบโจทย์ประเทศไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา 66 ปี อสมท. วันที่ 9 เมษายน 2561 โดยคุณเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท, คุณสุทธิชัย หยุ่น และคุณวีระ ธีรภัทร ร่วมวิเคราะห์ทิศทางและอนาคตประเทศไทยทุกมิติ โดยมี คุณวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ และคุณวรรณศิริ ศิริวรรณ เป็นผู้ดำเนินรายการ
คุณวีระ ธีรภัทร
โดยคุณวีระ ธีรภัทร กล่าวว่า “ในแวดวงสื่อสารมวลชนขณะนี้ เกิดการแข่งขันกันระหว่างสื่อออฟไลน์และสื่ออนไลน์ เนื่องจากเทคโนโลยีมีความทันสมัยอย่างมาก จึงทำให้สื่อออนไลน์ค่อนข้างได้เปรียบในการนำเสนอข่าว แต่ทั้งนี้ การนำเสนอข่าวของทุกช่องทาง โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ ในมุมมองของตนนั้น มองว่าข่าวบางข่าวมีการนำเสนอที่ผิดพลาด เนื่องจากเนื้อหาของข่าว้หมือนกันหมด เพราะต้นฉบับของข่าวที่นำเสนอผิด จนทำให้สื่อสำนักอื่นๆ ทุกประเภทที่คัดลอกข่าวจากแหล่งข่าวดังกล่าวมานำเสนอ เมือไหร่ที่ไม่มีความเป็นเลิศทางวิชาชีพ ทุกอย่างก็จบ!
สมัยก่อนตนอ่านหนังสือพิมพ์วันละ 8 ฉบับ แต่ปัจจุบันตอนนี้ตนมีหนังสือพิมพ์ให้อ่านแค่ 3 ฉบับต่อวัน เพราะปัจจุบัน เทคโนโลยี โซเชียลมีเดียเข้ามาบทบาทในสังคม ทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์ตก ขาดทุน บางฉบับก็ทยอยปิดตัว เพราะแบกรับสภาวะรายจ่ายไม่ไหว”
ทางด้านคุณสุทธิชัย หยุ่น กล่าวว่า “ปัจจุบัน เมื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในสังคม ทุกๆ คนก็ปรับตัวเข้าสู่โลกของสังคมดิจิทัล ใช้โซเชียลมีเดียเป็น โดยเฉพาะคนข่าวและคนในแวดวงสื่อสารมวลชนที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคของออนไลน์ มิฉะนั้น ก็จะไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งผิดกับบุคคลอื่นที่ต่อต้านเทคโนโลยี ทั้งนี้ เทคโนโลยีอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คนในการใช้ชีวิต แต่อย่าตกไปเป็นทาสของมันโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ประเทศไทยควรสร้างแพลทฟอร์มออนไลน์ขึ้นเพื่อสู้กับของต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยมีช่องทางการนำเสนอเอง ตนมองว่าการเปิดแพลทฟอร์มของตัวเองนั้นสามารถทำได้ และก็ปกป้องไม่ให้ Youtube และ Google เข้ามามีส่วนในแพลทฟอร์มของเรา”
ด้าน คุณเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวในช่วงท้ายว่า “เทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทในสังคม จนทำให้เกิดสื่ออินเทอร์เน็ตและโลกสังคมออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อกลุ่มสื่อดั้งเดิมอย่างมาก ฉะนั้น ในส่วนของสื่อโทรทัศน์ ส่วนตัวมองว่าทีวีดิจิทัลจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่เจ้าของสถานีต้องทราบว่ากลุ่มผู้รับสารเขาต้องการอะไร และการบริหารงานทีวีดิจิทัลในปัจจุบันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีปัจจัย 3 อย่าง คือ ครีเอทีฟ, เวลา และแนวทางธุรกิจ เพื่อให้การบริหารงานทีวีดิจิทัลประสบความสำเร็จ และนำเสนอคอนเทนต์ดีๆ ตรงสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: