เงินทอนวัด ลอต 3 เกิดปมร้อนในวงการพุทธศาสนา ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้ายื่นเอกสาร ปปป.เอาผิด “พงศ์พร” ผอ.พศ. ตามมาตรา 157 หลังกล่าวหาพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป กระทบความมั่นคง
วันที่ 24 เม.ย.61 ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ พร้อมด้วย น.อ.วินัย เสวกวิ และ ตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เดินทางยื่นเอกสารต่อ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อเอาผิด พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ในความผิดฐาน ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีได้เข้าร้องทุกข์กล่าวหาพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 3เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบและให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการสอบคำให้การของผู้ร้องทุกข์ ก่อนพิจารณาตามขั้นตอน
โดยระบุว่า พ.ต.ท.พงศ์พร ปฏิบัติหน้าที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.พศ. ซึ่งกฎหมายมิได้มอบอำนาจไว้ มีเจตนาทำให้วงการคณะสงฆ์เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่ดูหมิ่นเหยียดหยามจากประชาชนทั่วไป เป็นเหตุให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อพระสงฆ์ และอันตรายต่อความมั่นคงต่อสถาบันศาสนา
ทั้งนี้ การตรวจสอบทุจริต มีหน่วยงาน สตง. ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งคณะสงฆ์มีธรรมวินัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบพระสงฆ์ด้วยกันเอง และ ฆราวาส ไม่มีสิทธิกล่าวโทษ หรือวินิจฉัยแทน โดย พศ. เป็นหน่วยงานสนองงานเพื่อพระพุทธศาสนาไม่ใช่มาตรวจสอบว่า ถูกหรือผิดเสียเอง หาก ผอ.พศ. จะร้องทุกข์กล่าวโทษก็ควรถอดเครื่องแบบราชการออก และมาในฐานะประชาชนธรรมดาจะดีกว่า
ด้าน น.อ.วินัย เปิดเผยว่า ศาสนาเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของชาติ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยเรื่องเงินทอนนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำเงินมาถวายพระ และนำเงินกลับไป แต่สุดท้ายมาโยนความผิดให้พระสงฆ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ผอ.พศ. และ พระสงฆ์ ควรเป็นโจทย์ยื่นฟ้องหาผู้กระทำความผิดมากกว่า ไม่ใช่มาดำเนินคดีกับพระสงฆ์
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการสอบคำให้การของผู้ร้องทุกข์ ก่อนพิจารณาตามขั้นตอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: