ป้อมมหากาฬ – กรุงเทพมหานครเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ “ป้อมมหากาฬ” เป็นสวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ออกกำลังกาย คาดใช้เวลาประปรุงพื้นที่แล้วเสร็จประมาณ 1 เดือน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยแนวทางการพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ ก่อนเข้าปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่เป็นสวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดย ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ร่วมกับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนในการสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่ป้อมมหากาฬ ในการรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากพื้นที่ เพื่อเข้าดำเนินการปรับปรุงให้เป็นโบราณสถานที่ทุกคนสามารถใช้พื้นที่โดยรอบได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการตามรูปแบบที่เหมาะสม เน้นการเจรจา ไม่ใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนอย่างรอบด้าน อาทิ การประสานหาที่อยู่อาศัยใหม่ จัดเจ้าหน้าที่ช่วยรื้อย้ายบ้านเรือน ช่วยขนย้ายสิ่งของและจัดส่งถึงพื้นที่ที่ประชาชนต้องการ
ขณะดียวกัน พื้นที่ดังกล่าวประชาชนทยอยรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างและย้ายของออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากบ้านเรือนในพื้นที่จำนวน 56 หลังคาเรือนนั้น ขณะนี้ได้ทำการรื้อย้ายจนเหลือบ้านเพียง 5 หลังเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการรื้อย้าย โดยจะขนย้ายออกพื้นที่ทั้งหมดภายในวันที่ 29 เม.ย.61 หลังจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าทำการปรับปรุงพื้นที่ชั่วคราวเป็นสวนสาธารณะให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจหรือใช้ออกกำลังกาย โดยจะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยจะอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ไว้ทุกต้นเน้นการตัดแต่งกิ่งให้สวยงาม ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ประปา สุขา ขยายทางเท้าริมคลอง จาก 50 ซม. เป็น 2 เมตร พร้อมติดตั้งราวกันตกเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรได้โดยสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ คอยดูแลความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะฟื้นฟูอาคารญาณประกาศ ซึ่งเป็นอาคารเก่าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย ส่วนการกำหนดเวลาเข้า-ออก พื้นที่ ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพระนครพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ กทม. ขอขอบคุณชาวชุมชนป้อมมหากาฬที่เห็นความสำคัญของส่วนรวมและให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ เพื่อจะได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับทุกคนต่อไป
