บ็อกดัน บาเดีย (Bogdan Badea) เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันความร่วมมือไทย – โรมาเนีย ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
วันนี้ (2 พ.ค.61) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายบ็อกดัน บาเดีย (Bogdan Badea) เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทยในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีไมเคิลที่ 1 แห่งโรมาเนีย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการพัฒนาประเทศของโรมาเนีย โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโรมาเนียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในสหภาพยุโรป (EU) โดยในปี 2562 โรมาเนียจะเป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป และไทยจะเป็นประธานอาเซียน ดังนั้น ไทยและโรมาเนียสามารถมีบทบาทในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างภูมิภาคในช่วงเวลาดังกล่าวได้ พร้อมความร่วมมือในกรอบการดำเนินความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและเวทีระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ASEM และ OSCE
ขณะที่เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณในการต้อนรับ และดีใจที่ได้มาดำรงตำแหน่งในไทย พร้อมชื่นชมประเทศไทยที่มีความงดงามทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม ตลอดจนคนไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมีมายาวนานหลายร้อยปี โดยเฉพาะในระดับพระราชวงศ์ โอกาสนี้จึงขอแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เช่นกัน ซึ่งเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทยได้แสดงความยินดีที่มีการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป จากการปรับข้อมติที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวโน้มว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทยตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันความร่วมมือไทย – โรมาเนีย ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านการเกษตร ซึ่งไทยมีความสนใจที่จะเรียนรู้ในด้านการปศุสัตว์และการผลิตผลิตภัณฑ์นมจากโรมาเนีย เช่นเดียวกับฝ่ายโรมาเนียที่สนใจจะร่วมมือกันทั้งในด้านการเกษตรและสาธารณสุข สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ฝ่ายไทยเน้นย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลางของตลาดอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน จึงหวังว่านักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญชาวโรมาเนียจะเข้ามาร่วมลงทุนและทำงานในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ รัฐบาลได้เห็นชอบต่อโครงการ Smart Visa ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจที่จะมาลงทุนในโครงการต่างๆ
ในช่วงท้ายของการพูดคุย นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่ฝ่ายโรมาเนียคอยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาไทยในโรมาเนีย พร้อมขอให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่จะเป็นโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยินดีที่ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานและให้ความร่วมมือแก่เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยกับโรมาเนียให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไปในทุกมิติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: