ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) เดินหน้ามาตรการเกษตรประชารัฐลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร พร้อมเปิดตัว“บัตรเกษตรสุขใจ” เอกสิทธิ์พิเศษสำหรับเกษตรกร วงเงินรายละไม่เกิน 30,000 บาท เป้าหมายเกษตรกรทั่วประเทศ 3 ล้านราย
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนมาตรการเกษตรประชารัฐ เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยสนับสนุนการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดผ่านสถาบันเกษตรกรพร้อมมอบ “บัตรเกษตรสุขใจ” ให้กับเกษตรกร
เพื่อนำไปใช้ซื้อปัจจัยการผลิตแทนการใช้เงินสด ผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Shop กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 17,000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากจะสะดวกสบายปลอดภัยแล้วยังช่วยลดต้นทุนในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลสนับสนุนอีกด้วย
นายลักษณ์ วจนานวัช กล่าวว่า “คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินมาตรการเกษตรประชารัฐ เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 93,600 ล้านบาท”
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ จัดนิทรรศการศิลปะ รักษ์โลก รักเรา จุดพลังเยาวชน ประกวดวาดภาพชิงรางวัล 60,000 บาท (มีคลิป)
- ททท. จัดงานใหญ่ "วิจิตรเจ้าพระยา 2024" สวยงามตระการตา กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้
- "รัฐสภา" ร่วมสนับสนุนการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “พระจักราวตาร”
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
ประกอบด้วยโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อลดต้นทุนปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร ซึ่งดำเนินการในรูปแบบบัตรสวัสดิการสินเชื่อแห่งรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อปัจจัยการผลิตผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เป้าหมายเกษตรกร 3 ล้านราย รายละไม่เกิน 30,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 90,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR-3 ต่อปี(ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี)
และโครงการสนับสนุนการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดผ่านสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่สถาบันเกษตรกรในการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดเพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกของสถาบันเกษตรกรและเกษตรกรทั่วไป เป้าหมายสถาบันเกษตรกร จำนวน 500 แห่ง วงเงินสินเชื่อ 3,600 ล้านบาท ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกร 300 แห่ง
วงเงินกู้แห่งละไม่เกิน 10 ล้านบาท ตามศักยภาพและความจำเป็นในการใช้เงินกู้ และวิสาหกิจชุมชน 200 แห่ง วงเงินกู้แห่งละไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR-3 ต่อปี(ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5 ต่อปี) โดยทั้ง 2 โครงการมีระยะเวลาในการจ่ายเงินกู้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 61 ถึงวันที่ 30 เม.ย. 62 กำหนดชำระหนี้คืนไม่เกิน 12 เดือน และไม่เกินวันที่ 30 เม.ย. 63
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ กล่าวว่า “พร้อมดำเนินงานตามมาตรการเกษตรประชารัฐเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาล”
โครงการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรนั้น ธ.ก.ส. ได้จัดทำ “บัตรเกษตรสุขใจ” ซึ่งเป็นบัตรที่มี QR Code โดยเกษตรกรสามารถนำบัตรดังกล่าวไปใช้จ่ายเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ได้แก่ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องจักรกลหรือเครื่องมือการเกษตรขนาดเล็ก และปัจจัยอื่นๆ ที่จำเป็น
ได้แก่ข้าวสาร ผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Shop กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 17,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ประกอบด้วย ร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตของสหกรณ์การเกษตร ร้านที่ขึ้นทะเบียนไว้กับโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรของ ธ.ก.ส.
ร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตคุณภาพประชารัฐ และร้าน Q-Shop ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ บัตรแต่ละใบมีวงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 30,000 บาท “บัตรเกษตรสุขใจ”จึงมีความสะดวกปลอดภัย ช่วยลดต้นทุนเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาที่เป็นธรรมจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ และยังเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสังคมไร้เงินสดของภาครัฐ
ในส่วนโครงการสนับสนุนการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดผ่านสถาบันเกษตรกร เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสนับสนุนให้สถาบันเกษตรกรมีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย มีประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก ซึ่งการทำธุรกิจผลิตหรือจัดหาปุ๋ยสั่งตัดเพื่อจำหน่าย
ถือเป็นการพัฒนารูปแบบการผลิตที่เหมาะสมกับสภาพการเพาะปลูก ช่วยให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยสั่งตัดที่มีคุณภาพดีตรงกับสภาพของดิน และทำให้พืชที่ปลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสมเจริญเติบโตดี ลดปัญหาโรคแมลง และให้ผลตอบแทนสูง จึงเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: