รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวอินเดีย คดีปลอมแปลเอกสารด้วยการใช้ทะเบียนสมรสที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ซึ่งพบผู้เสียหายเป็นหญิงไทยนับร้อยที่มีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (23 พ.ค.61) เมื่อเวลาประมาณ 10:30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาชาวอินเดียในคดีใช้ทะเบียนสมรสที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือโดยอำพราง เนื่องจากอยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 3 ราย ได้แก่ (1.) นายปราบาห์การ์ ซิงห์ (Mr.Prabhakar Singh) , (2.) นายริเตซ กูมาร์ (Mr.Ritesh Kumar) และ (3.) นายแมนจี๊ต มาลลาห์ (Mr.Manjeet Mallah)
นอกจากนี้ ได้มีการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 5 ราย ได้แก่ (1.) นายสุรัช ปรากาศ ซิงห์ (Mr.Suraj Prakash Singh) , (2.) นายราจู ชาร์มา (Mr.Raju Sharma) , (3.) นายไชเรซ กูมาร์ ทริปาตี้ (Mr.Shailesh Kumar Tripathi) , (4.) นายวิเจนดร้า นิชาร์ด (Mr.Vijendra Nishad) และ (5.) นายบาจัน นิชาร์ด (Mr.Bhajan Nishad) รวมผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 8 ราย
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “ได้รับการร้องเรียนจากหญิงไทยจำนวนหลายราย ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย หลังพบว่าตนเองมีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย โดยที่ตนเองไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน และไม่รู้จักชาวอินเดียที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนสมรสแต่อย่างใด จึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน บช.ทท. และชุดสืบสวน สตม. ประสานงานกับ อ.วังม่วง จว.สระบุรี เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
จากการตรวจสอบพบว่า พบรายชื่อของหญิงไทยจำนวน 300 ราย ที่จดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียโดยมิชอบหรือโดยอำพราง ต่อมามีชาวอินเดียบางราย นำทะเบียนสมรสที่ออกโดยส่วนราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น ไปใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว โดยอ้างว่าต้องการอุปการะภรรยาที่อาศัยในประเทศไทย หรือเยี่ยมคู่สมรสชาวไทย
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ส่วนรายชื่อที่เหลือประมาณ 1,700 ราย เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบว่ารายชื่อผู้จดทะเบียนสมรสได้อยู่กินกันจริงหรือไม่ หากพบความผิดปกติจะถูกเพิกถอนใบสมรสทันที นอกจากนี้ ตำรวจได้ออกหมายจับชาวอินเดียอีกกว่า 300 ราย ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างการจดทะเบียนกับหญิงไทยเพื่ออยู่ในประเทศไทย ต่อมาดำเนินคดี โดยมีผู้กระทำผิดบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ ขณะที่บางส่วนยังคงอยู่ในประเทศไทย”
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงกรณีการขยายผลจับกุมในคดีนี้ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ทำการขยายผลจับกุมชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด โดยขยายผลตรวจสอบรายชื่อจากบัตรประชาชนหญิงไทยมากกว่า 2,000 ราย ที่ถูกปลัดอำเภอวังม่วง จ.สระบุรี จำนวน 2 ราย และเจ้าหน้าที่ธุรการอีก 1 ราย รวมทั้งสิ้น 3 ราย ซึ่งร่วมกันทุจริตโดยการนำรายชื่อจากสำเนาการกู้ยืมเงินหรือรายชื่อที่ถูกคนใกล้ชิดนำไปส่งต่อเพื่อทำการจดทะเบียนสมรสโดยมิชอบ ก่อนส่งกลับไปให้เพื่อรับเงินค่านายหน้ารายชื่อละ 2,000 บาท ซึ่งขณะนี้ปลัดอำเภอวังม่วง จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ธุรการที่ร่วมกันทุจริตได้ถูกไล่ออกจากราชการ พร้อมถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2558 ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
เบื้องต้น ตำรวจท่องเที่ยวได้ช่วยเหลือหญิงไทยที่มีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปทำการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วจำนวน 13 ราย และอยู่ระหว่างการประสานติดตามผู้เสียหายที่มีรายชื่อตกเป็นคู่สมรสโดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาให้ปากคำกับตำรวจ เพื่อดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: