วันนี้ 25 เม.ย. 65 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ตร.สภ.เหมืองจี้ พร้อม ตร.ภาค5 คุมตัวนายศุภกร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองนริศรา สาขากาดจตุจักร ลำพูน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองร่วมกับผู้ต้องหาอีกคน คือนายบอล นพรัตน์ ได้ทองไป 20 เส้น น้ำหนักรวม 53 บาท แล้วหลบหนีเข้าไปซุกซ่อนของกลางที่บ้านตนเองแล้วขับรถหลบหนีไป ก่อนจะถูกกดดันแล้วเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถุกควบคุมตัวไปฝากขังไว้ที่ สภ.เหมืองจี้ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุก่อนนำตัวมาทำแผนในช่วงเช้าวันนี้
ขณะทำแผน นายศุภกร ถึงกับก้มลงนั่งไหว้ขอขมาเจ้าของร้านทองนริศรา แล้วก้มกราบสำนึกผิดที่ได้ทำลงไปทำให้ได้รับความเดือดร้อน ส่วนเจ้าของร้านก็บอกได้ให้อภัยแล้ว หลังจากการทำแผนและชี้จุดลงมือเข้าไปเอาทองและขนขึ้นรถและขับหลบหนีไปที่บ้านตนเองแล้วทางตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวบริเวณหน้าร้านพร้อมกับประชาชนที่สนใจมามุงดูจำนวนมาก
โดยเหตุจี้ชิงทองเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 65 เวลา 08.12 น ตร.สภ.เหมืองจี้ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการจี้ชิงทรัพย์ภายในร้านทองนริศรา ตลาดจตุจักร โดยคนร้ายขับรถกระบะสีขาว มาก่อเหตุ 2 คน โดยชี้อาวุธปืน แต่กายด้วยชุดสีดำสวมหมวกกันน็อคอำพรางตัว ได้ทองไปจำนวน 20 เส้น น้ำหนัก 53 บาท มูลค่ากว่า 1,703,897 บาท จากในถาดที่คนร้ายช่วยกันยกไปขึ้นรถกระบะแล้วขับหลบหนีออกไปจึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วทำการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆ จนพบเบาะแสที่คนร้ายหลบหนี และไปซ่อนตัวอยู่จึงติดตามไป
จากการสอบสวนเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายขับรถไปในโรงรถของ บ.รียูส หมู่ 1 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและตรวจค้นจนพบของกลาง รถ และอุปกรณ์และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และได้ให้ลูกสาว โทรติดตามคนร้ายที่ทราบว่าเป็นนายศุภกร และได้เจรจาตกลงเข้ามอบตัวกับตำรวจโดยขับรถที่หลบหนีไปซึ่งเป็นรถอีกคันที่คนร้ายมาจอดกระบะไว้แล้วใช้ขับหลบหนีไปกับนายนพรัตน์ แล้วได้แบ่งทองให้นายนพรัตน์ไป 1 เส้นขณะหลบหนี ซึ่งทำให้จำนวนทองคำที่ได้คืนตอนนี้ คือ 19 เส้น น้ำหนัก 48 บาท มูลค่า 1,536,000 บาท
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวนหาข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามยังเหลือผู้ต้องหาอีกคน คือ นายนพรัตน์ที่ได้ช่วยทำการจี้ทอง และได้ขอหมายศาลตามจับกุมแล้วซึ่งหลบหนีไปต่างจังหวัด พร้อมนำทองของกลางไปด้วย 1 เส้น โดยตัวนายศุภกร ได้บอกว่าไปส่งผู้ต้องหารายนี้ไปขึ้นรถหลบหนีไป ส่วนนายนพรัตน์เองก็เป็นบุคคลทีมีประวัติอาชญากรรมมาโชกโชนเคยก่อคดีและติดคุกมาแล้วถือว่าเป็นบุคคลอันตราย หากใครพบเห็นหรือมีเบาะแสก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ทันที
ด้าน พล ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ยังมีผู้ที่หลบหนีอีก 1 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุเป็นผู้ที่มีคดีติดตัวมากมาย หากญาติพี่น้อง หรือผู้ใดให้ที่พักก็อาจมีความผิด และหากพบเบาะแสขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าควบคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
