ศรีสะเกษ- รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ติดตามผลการปฏิบัติ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และจ.ชัยภูมิ ทั้งหมด 14 เป้าหมาย โดยเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ จำนวน 27 จุด
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 ที่กองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เดินทางมาตรวจติดตามผลการดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์และชัยภูมิ
ซึ่งมีเป้าหมายกลุ่มนายทุน จำนวน 14 เป้าหมาย โดยเข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ จำนวน 27 จุด และมีหมายจับ จำนวน 1 หมาย ขณะเดียวกันชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ จากอำเภอกันทรลักษ์ ขุขันธ์ และอ.ปรางค์กู่ ประมาณ 50 คน เอาดอกไม้มามอบให้กับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ แสดงความขอบคุณที่นำคณะมาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อของนายทุนเงินกู้โหด โดยมี พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และคณะนายตำรวจของตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ
พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำการปล่อยแถวออกกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบภายใต้ยุทธการ“ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” โดยได้ทำการปิดล้อมเป้าหมายในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ จำนวน 12 จุด และตรวจค้นเป้าหมายในเขต อ.ขุขันธ์ ปรางค์กู่และ อ.กันทรลักษ์ ปรากฏว่า สามารถตรวจค้นยึดเอาโฉนดจากนายทุนเงินกู้นอกระบบมาได้ จำนวน 823 ฉบับ ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบโฉนดทั้งหมด
หลังจากนี้ จะได้มีการเชิญนายทุนเงินกู้และชาวบ้านที่นำเอาโฉนดมาจำนองหรือขายฝาก มาพูดคุยภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยจะมีคณะกรรมการไกล่เกลี่ย ประกอบด้วย ตัวแทนอัยการจังหวัด ที่ดินจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจรจาตกลงกัน หากไม่สามารถที่จะเจรจากันได้ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ ในวันนี้ ได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมาย 3 จังหวัดคือ ชัยภูมิ สุรินทร์และศรีสะเกษ ปรากฏว่า สามารถตรวจยึดโฉนดที่ดิน ได้รวมทั้งสิ้น 1,100 ฉบับ พื้นที่ 3,000 ไร่เศษ ทำการยึดทรัพย์นายทุนเงินกู้นอกระบบ จำนวน 117 ล้านบาทเศษ
เบื้องต้นสามารถ จับผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นางสุพล ผลสมบูรณ์สุข อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 166/2561 ลงวันที่ 2 ต.ค. 2561 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” และนางสาวสรัลรัส สุวรรณประดิษฐ์ อายุ 31 ปี ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากยึดโฉนดที่ดิน 3 จังหวัด จากนายทุนเงินกู้นอกระบบแล้ว ในวันที่ 26 ต.ค. 61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่และมอบโฉนดที่ดินคืนแก่ประชาชน ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษเป็นพื้นที่ที่พบปัญหาดังกล่าวมากที่สุด เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของคนไทยมากมาย
นอกจากนี้ยังพบว่า บางตำบลในพื้นที่อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นที่ดินของคนเพียงคนเดียว มีการต่อสู้คดีความกัน 8 – 9 ชั่วอายุคน ขอฝากถึงนายทุนเงินกู้นอกระบบที่ยังคงใช้เล่ห์เหลี่ยมฉ้อฉลหลอกลวงชาวบ้านให้ยุติการกระทำ ให้ไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรายงานตัวต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อการแก้ไขปัญหาเงินกู้นอกระบบ ซึ่งจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: