สรุปเที่ยวบินเปลี่ยนแปลง-ยกเลิกในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ประจำปี 2562 สายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 18.00 น.จำนวนทั้งสิ้น 151 เที่ยวบิน ลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดกับอากาศยาน
เชียงใหม่- เรืออากาศโท ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562) มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 151 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 22.63 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.เที่ยวบินที่ยกเลิก จำนวน 96 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 66 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 30 เที่ยวบิน
2. เที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 55 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 41 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 14 เที่ยวบิน
ซึ่งทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปล่อยโคมลอย/โคมควัน ในช่วงเทศกาลลอยกระทงตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 อย่างเคร่งครัด ขณะที่สายการบินยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินหลังเวลา 18.00 น.จำนวนทั้งสิ้น 151 เที่ยวบิน ลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดกับอากาศยาน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว คาดว่าน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน มีการตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระและผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด สุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอลล์ของพนักงานที่ปฏิบัติงานในเขตการบิน รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยและป้องปรามกลุ่มผิดกฎหมายที่อาจฉวยโอกาสกระทำการ ในช่วงผู้โดยสารคับคั่ง ทั้งนี้ยังขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมายังท่าอากาศยานมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีผู้โดยสารคับคั่งแออัดตลอดทั้งวัน
สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือ ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัด สถานศึกษาและชุมชนที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 33 อย่างเคร่งครัด คือห้ามมิให้บุคคลใดจุดและปล่อยหรือกระทำการใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ซึ่งเป็นการรบกวนหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินอากาศหรือการปฏิบัติการ ของอากาศยาน อย่างไรก็ตามหากการกระทำดังกล่าวอยู่นอกเขตปลอดภัยการเดินอากาศขอให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ พ.ศ.2559 ต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- กองบิน 5 แถลงข่าวการจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” รำลึกถึงความกล้าหาญ และความสามัคคีของวีรชนผู้กล้า ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และช่องทาง Social Media และเปิดช่องทางให้สอบถาม และตรวจสอบพื้นที่ปล่อยโคมลอยจังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน Application Line ซึ่งมีผู้สอบเข้ามาจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลม พัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสืบสานประเพณีลอยกระทง โดยได้ประดับโคมไฟและโคมแขวนภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตามวิธีพุทธ และประเพณีเดือนยี่เป็ง เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวในฐานะประตูสู่วัฒนธรรมล้านนา (Gateway to Lanna Heritage)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: