ชลบุรี/รองนายกเมืองพัทยายุค คสช.สั่งลุยตรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมคลอง และบุกรุกที่สาธารณะ สั่งบูรณาการหน่วย งานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจสิทธิ์ครอบครอง หากพบมีความผิดสั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด
หลังจากที่เมืองพัทยาได้ประกาศใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มชาวบ้านที่ยังลักลอบทิ้งขยะลงในคลองสาธารณะ บริเวณคลองนกยาง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมไปถึงการออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารที่ตรวจพบว่ามีการก่อสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันยังคงติดปัญหาอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานการถือครองกรรมสิทธิ์และการอนุญาตใช้ตามกฎหมายการล่วงล้ำลำแม่น้ำของกรมเจ้าท่า
ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามประกาศเป็นเวลา 180 วัน ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาดัง กล่าวให้กับประชาชนที่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างรุกที่สาธารณะนั้น ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้มีการประสานในการจัดสรรที่อยู่อาศัยให้กับชาวบ้านกับการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้ชาวบ้านในส่วนที่มีปัญหาไปเช่าซื้ออาคารชุดในโครงการบ้านเอื้ออาทรในราคาถูกจำนวนกว่า 300 ยูนิตนั้น
ล่าสุด นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางละมุง กำลังทหารจากหมวดรักษาความสงบ อำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหามลพิษ และการรุกล้ำบริเวณแนวลำคลองสาธารณะอีกครั้ง
นายวิเชียร กล่าวว่าสำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมาติดตามผลความคืบหน้าการจัดการปัญหาขยะมูลฝอยในลำคลอง ซึ่งพบว่าขณะนี้มีสภาพภูมิทัศน์ที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของเมืองพัทยาและชาวบ้านที่ออกมาช่วย กันเก็บกวาดและดูแลปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบันสภาพลำคลอง และชุมชนมีความสะ อาดมากขึ้น ขยะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสภาพก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคลองนกยางปัจจุบันยังเป็นคลองที่มีลักษณะเป็นทางตัน และน้ำไม่สามารถไหลผ่านลงสู่ทะเลได้ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งกรณีนี้ตรวจสอบดูพบว่ามีการก่อสร้างกำแพงขนาดใหญ่ของวัดช่องลมปิดขวางทางน้ำอยู่ โดยพบว่าเป็นการดำเนินการบนที่สาธารณะ ซึ่งจากนี้เมืองพัทยา จะร่วมกับอำเภอบางละมุง จัดทำหนังสือชี้แจงและเจรจากับทางวัดเพื่อร่วมหาทางออกที่ชัดเจนต่อไป
หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านแห่งหนึ่ง ริมชายหาดนาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ชายหาดหรือที่สาธารณะ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าได้มีการต่อเติมพื้นที่ออกไปจากแนวกำแพงเดิมของบ้านลงไปบนแนวชายหาด ขนาดความกว้าง 4.8 เมตรยาวประมาณ 45 เมตร เพื่อเตรียมปรับปรุงสถานที่ภายในเป็นร้านอาหาร ซึ่งเบื้องต้นไม่พบตัวผู้ดูแลเพื่อตรวจสอบสิทธิ์ในการดำเนินการ
อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวพบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตก่อ สร้างหรือต่อเติมอาคารจากเมืองพัทยาแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้เมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประ สานไปยังสำนักงานที่ดิน เพื่อทำการรางวัดแนวเขตของกรรมสิทธิ์และที่สาธารณะอีกครั้งว่าเป็นการดำเนินการในพื้นที่ครอบครองหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการรุกล้ำที่จริงก็จะดำเนินการออกคำสั่งรื้อถอนต่อไป……
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: