ตำรวจพัทยาจับทันควันสาวไทยแค้นถูกเฒ่าอังกฤษบอกเลิกชักมีดแทงเจ็บ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (7 เม.ย.) พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมกำลังร่วมแถลงข่าวจับกุม นางวาสนา การดี อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทง นายฟูลเลอร์ คิม พาร์คทริก พูล อายุ 67 ปี สัญชาติอังกฤษ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมยึดของกลาง มีดปอกผลไม้ ความยาวประมาณ 22.5 ซม. จำนวน 1 เล่ม และเสื้อเปื้อนเลือด 1 ตัว แต่เบื้องต้นทางตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลแล้วจึงไม่ได้นำมาแถลงข่าว
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 19.00 ของวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติถูกหญิงไทยใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในห้องพักของ “ไดอาน่าเอสเตทคอนโดมิเนียม” ซอยบัวขาว ย่านพัทยากลาง อ.งละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบเพียงคราบเลือดเปรอะเปื้อนตามพื้นห้อง ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ นายฟูลเลอร์ คิม พาร์ค ทริก พูล อายุ 67 ปี (Kim Patrick Poole) สัญชาติอังกฤษ ซึ่งถูกของมีคมแทงเข้าที่หน้าท้อง 1 แผล เบื้องต้นพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล ไปก่อนหน้านี้
ส่วนมือมีดทราบว่าเป็นภรรยาของคนเจ็บชื่อ น.ส.วาสนา การดี อายุ 38 ปี หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยแตงโมไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนพบอยู่ในสภาพตัวเปื้อนเลือดมีบาดแผลถูกของมีคมบาดที่ฝ่ามือซ้ายจึงคุมตัวไปยึดของกลางมีดปอกผลไม้ 1 เล่มและเสื้อเปื้อนเลือดที่ซุกซ่อนไว้ในละแวกใกล้เคียง สอบสวนให้การรับสารภาพว่าได้คบหากับนายฟูลเลอร์ ผู้ได้รับ บาดเจ็บมานานกว่า 3 ปี แต่ระยะหลังสามีชาวอังกฤษตีตัวออกห่าง กระทั่งก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวได้บอกเลิกและไล่ออกจากห้องพัก จากนั้นจึงจึงมีการทะเลาะกันจนเกิดความโมโหจึงคว้ามีดปอกผลไม้แทงเข้าที่หน้าท้องไป 1 ครั้ง ขณะที่ตนเองก็ถูกมีดบาดที่มือซ้ายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หลังจากสามีฟุบจมกองเลือดจึงเปลี่ยนเสื้อแล้ววิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุจนมาถูกตำรวจไล่ตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา และดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยภายหลังแถลงข่าวทาง ผบก. ภ.จว.ชลบุรี พร้อมคณะ ได้นำกระเช้าเข้าเยี่ยมนายฟูลเลอร์ ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล ทำให้นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษรายนี้เกิดความประทับใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถตามจับคนร้ายได้ในเวลาอันรวด เร็ว และเดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญในครั้งนี้ ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจทุกนายที่ไม่ทอดทิ้ง ซึ่งจากการสอบถามแพทย์ทราบว่าอาการของนายฟูลเลอร์ พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไปจนกว่าจะหายดี…
