ตำรวจยังคงไล่ล่า 9 ผู้ต้องหา แก๊งอุ้มสาวจีนเรียกค่าไถ่ ล่าสุดรวบได้แล้ว 2 คน อยู่ระหว่างสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาฟัง
จากกรณีที่ตำรวจไทยบุกเข้าช่วยเหลือ นักธุรกิจสาวชาวจีนที่ถูกแก๊งชาวจีนและชาวไทยรวม 11 คน อุ้มตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิสมุทรปราการ ไปเรียกค่าไถ่รวมเป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานพร้อมเข้ายื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ขออนุมัติหมายจับผู้รวมก่อเหตุไปแล้วจำนวน 5 คน เป็นชาวจีน (ชื่อจากแฟ้มข่าว) จำนวน 4 คน ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และหมายจับ นางสาวแอนนา ตัวการสำคัญที่เป็นคนไทยและเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในการจัดหาคนไทยร่วมขบวนการ ล่าสุดในวันนี้ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุเพิ่มอีก 6 ราย ประกอบด้วย 1.นางสาว อุทัย อินทร์ตรี อายุ 51 ปี ซึ่งทำหน้าที่จัดหาที่พักให้กับผู้ต้องหาและสถานที่กักขังเหยื่อ และนำกระเป๋าสัมภาระของเหยื่อไปเก็บยังบ้านพักของตนเอง 2. นายประสิทธิ์ ดิษฐ์จินดา 34 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับนางแอนนา และอยู่ในเหตุการณ์ตลอด 3. นายสำรวย ทิมแก้ว อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เฝ้าเหยื่อ 4. นายนิพนธ์ วีระศร อายุ 32 ปี ทำหน้าที่เฝ้าเหยื่อ 5. นายสมบัติ คาเพ็ชร อายุ 27 ปี คนขับรถตู้ทำหน้าที่ซื้อข้าวและน้ำส่งให้ผู้ต้องหา 6.นาย ณัฐพล แก้วไซเกิด 32 ปี ทำหน้าที่ทำอาหารและร่วมกันจับผู้เสียหายให้กับนางแอนนาทำร้ายร่างกาย โดยทั้งหมดศาลได้อนุมัติหมายจับในข้อหาร่วมหน่วงเหนี่ยวกักขัง ให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยที่ผู้เสียหายเดินทางเข้าชี้ตัวยืนยันแล้ว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการได้แล้วสองคน คือ นายสำรวย ทิมแก้ว และนาย นิพนธ์ วีระศร ที่กบกานอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งทั้งคู่ทำหน้าที่เฝ้าเหยื่อและได้รับการว่าจ้างจากนางแอนนา วันละ 1,000 บาท และยังซัดทอดว่าเห็นนางแอนนา เอาปืนมาจ่อหัวผู้เสียหายและทำร้ายร่างกายจริง
สำหรับขบวนการอุ้มเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนพบว่าผู้เสียหายและผู้จ้างวานเป็นชาวจีนมีหนี้สินทางธุรกิจกันจริง จึงว่าจ้างผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและคนจีนเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย เนื่องจากทราบข้อมูลผู้เสียหายจะเดินทางมาเที่ยวในเมืองไทย หลังจากก่อเหตุและได้เงินไปกว่า 10 ล้านบาทไทย ซึ่งยอดเงินใกล้เคียงกับหนี้สินกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดจึงเดินทางกลับประเทศทันที ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิตามปกติ เนื่องจากขณะนั้นผู้เสียหายยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน หลังจากที่กลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนได้เดินทางกลับไปแล้วนั้น นางแอนนา จึงวางแผนซ้อนอีกต่อหนึ่งหวังเรียกค่าไถ่เพิ่มอีกต่อหนึ่ง เพื่อให้ได้เงินมาใช้เอง โดยได้ติดต่อกับนาย สำรวย ให้จัดหาลูกน้องไปเฝ้าเหยื่อและร่วมกันกักขัง ก่อนที่นางแอนนา จะติดต่อกลับไปหาสามีของผู้เสียหายอีกครั้งเพื่อเรียกค่าไถ่เพิ่มอีกจำนวน 5 ล้านบาท และสามีของเหยื่อยอมจ่ายเพิ่มให้อีกเพียง 1 ล้านเพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่นางแอนนา ไม่ยอมปล่อย สามีจึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำมาซึ่งการกดดันให้ผู้ก่อเหตุยอมปล่อยตัวและนำผู้เสียหายมาปล่อยทิ้งไว้ริมถนนบางนาตราด เหยื่อได้เข้าขอความช่วยเหลือที่ร้านสะดวกซื้อ ในละแวกใกล้เคียงจนตำรวจตามมาช่วยเหลือเอาไว้ได้ดังกล่าว
ล่าสุดข้อมูลจากแหล่งข่าวได้ทราบว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าได้ทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุซึ่งเป็นคนไทยที่เหลือทั้งหมดแล้วอยู่ระหว่างติดตามจับกุม
