เจ้าหน้าที่ตำรวจสำโรงเหนือ บุกเข้ารวบตัวสองผู้ต้องหา หลังร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวสร้อยทองผู้โดยสารบนรถสองแถว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อทัพ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ
วันที่ 26 พฤษภาคม 2561 พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ , พ.ต.ท.ศุภกร ธัญญกรรม รอง ผกก.สส.ฯ ร่วมกันจับกุม นายวิวัฒน์ บุญกำเหนิด อายุ 40 ปี และ นายปราโมทย์ แซ่ตั้ง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำผู้โดยสารรถสองแถว พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน อกจ 495 กรุงเทพมหานคร และชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมตัว ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ บริเวณปากซอยอ่อนนุช 53 แยก 1-6 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร และจับกุมตัว ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ หน้าอาคารพาณิชย์เลขที่ 129/342 หมู่บ้านฉัตรนคร แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 09.16 น. ได้เกิดเหตุมีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงินขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ของผู้เสียหาย ขณะนั่งโดยสารบนรถสองแถว เหตุเกิดที่ บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อทัพ ถนนรถรางเก่า ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่คนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าว มีกล้องหน้ารถของชาวบ้าน สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ก่อนที่ภาพดังกล่าว จะถูกนำไปแชร์ ในสังคมโซเชียลกันอย่างแพร่หลาย ต่อมาหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวน ได้ ลงพื้นที่ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี จนได้เบาะแสว่า ก่อนก่อเหตุ นายวิวัฒน์ ได้ขับขี่ รถจักรยานยนต์ คันที่ใช้ก่อเหตุไปรับ นายปราโมทย์ จากบริเวณภายในซอยอ่อนนุช 53 แยก 1-6 ฯ และร่วมกันขับขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุดังกล่าว ต่อมาหลังจากก่อเหตุเสร็จ ได้ขับรถเข้าไปส่ง นายปราโมทย์ ที่ซอยดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนที่นายนายวิวัฒน์ จะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพียงลำพัง หลังจากได้ข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงได้รวมรวมหลักฐานเดินทางขออนุมัติหมายศาล จังหวัดสมุทรปราการ เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองเอาไว้ได้
เบื้องต้นทั้งสองรับการสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยทองที่ได้นำไปขายในราคา 18,000 บาท ก่อนนำเงินมาแบ่งกัน เนื่องจากต้องการเงินไปใช้จ่ายและเป็นทุนในการออกหางานทำ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ทราบว่า นายวิวัฒน์ และ นายปราโมทย์ เคยมีประวัติก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์และชิงทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2561 กระทั้งมาก่อเหตุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองราย ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
