หนุ่มจอดรถไว้ริมกำแพง ภายในซอยฝั่งตรงข้ามซอยบ้านเพื่อน แล้วออกไปทำกิจกรรม ก่อนจะกลับมาพบว่ารถถูกชนท้ายจนยับ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กระบะได้ขับมาพุ่งชนท้ายรถ 2 ครั้งซ้อน ก่อนจะขับหลบหนีไป เบื้องต้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่นำรถไปจอด และเคยมีปัญหากันกับเพื่อนเจ้าของรถ ซึ่งยื่นยันว่ารถของบ้านหลังดังกล่าวสามารถเข้าออกได้สะดวกและรถก็ไม่ได้ขวางทางขนาดที่ว่ารถเข้าออกไม่ได้เนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นถนน 2 เลน
จากกรณีที่เพื่อนผู้เสียหายนำคลิปเหตุการณ์ รถยนต์กระบะขับพุ่งเข้าชนรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ภายในซอยตันภายในหมู่บ้านนครทองซิตี้ ซอย 1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพฤติกรรมของคนขับรถยนต์กระบะคล้ายกับตั้งใจพุ่งชน เนื่องจากชนครั้งแรกแล้วยังถอยหลังรถก่อนที่จะพุ่งชนซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จนท้ายรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน กท 9882 สุรินทร์ คันดังกล่าวพังยับเยินและไถลไปชนกับท้ายรถยนต์กระบะยี่ห้อ เซฟ สีดำ ทะเบียน 1 กษ 8065 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ด้านหน้า ก่อนที่รถยนต์กระบะจะถอยหลังรถและขับหลบหนีไปทางปากซอยหน้าหมู่บ้าน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวานนี้ที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- 33 ปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 13-22 ธันวาคม 67
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายในวันนี้ที่ 1 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบผู้เสียหายภายในหมู่บ้านดังกล่าวซึ่งรถเก๋งคันที่ถูกก่อเหตุยังไม่ได้เคลื่อนย้ายออกไปไหน ได้พบนายวิชิต พิลาศรี อายุ 48 ปี (เสื้อเทา) เจ้าของรถเก๋งที่ถูกชน ได้กล่าวว่า เมื่อคืนมีกิจกรรมที่สโมสรที่โรงเรียนที่ลูกตนเรียนอยู่ และคนที่ตนรู้จักลูกก็เรียนอยู่ด้วยกันทางสโมสรเข้าจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างผู้ปกครองโดยจัดกีฬาสี ก็เลยมีการแต่งแฟนซีไปประกวดกัน ตนก็เลยนำรถมาจอดไว้ที่บ้านเพื่อนเพื่อที่จะนั่งรถคันเดียวกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ พองานใกล้จะเลิกมีคนโทรไปบอกว่ารถถูกชน จึงนั่งแท็กซี่เข้ามาดูก็มาเจอสภาพแบบนี้ ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนชน แต่พอดูกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นรถอีซูซุ กระบะคันหนึ่งมาชนคือตั้งใจชน คือชนแล้วครั้งหนึ่ง และก็พุ่งชนซ้ำอีก ซึ่งตนก็ไม่รู้จักคนขับรถคันนี้เลยเพราะตนไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ผมแค่มาหาเพื่อเฉย ๆ และมาจอดรถไว้ เราก็ไม่รู้ว่าตรงนี้เขาห้ามจอดหรืออะไรเราก็ไม่รู้
ด้านนายปรัชญา วงโอษฐ์ อายุ 40 ปี (เสื้อแดง)เจ้าของรถยนต์กระบะที่ก่อนอยู่ด้านหน้าและถูกรถเก๋งไถลมาจนท้ายจนยุบ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ชักชวนผู้ปกครองของลูกที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมารวมตัวเพื่อแต่งหน้าแต่งกายเพื่อไปประกวดงานแฟนตาซีในงานกีฬาสีของสโมสร ที่จัดอยู่อีกทีหนึ่ง โดยตนได้ขยับรถยนต์กระบะของตนไปจอดยังซอยที่เกิดเหตุซึ่งเป็นซอนตันและเป็นพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ซึ่งทุกคนสามารถนำไปจอดและใช้พื้นที่ร่วมกันโดยที่ไม่ได้ขวางหน้าบ้านใคร ซึ่งในซอยตันนั้นมีบ้านที่หันหน้าออกมาทางพื้นที่ส่วนกลางดังกล่าวจำนวน 3 หลัง ซึ่งตนได้นำรถไปจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม และผู้ปกครองเพื่อนลูกชายตนที่เดินทางมาช่วยกันแต่งตัวแฟนตาซีได้นำรุยนต์เก๋งมาจอดต่อท้ายรถของตน ซึ่งก็ไม่ได้กรีดขวางหน้าบ้านใครและรถของบ้านทั้ง 3 หลังที่อยู่ในซอยนั้นก็สามารถเข้าออกได้สะดวก หลังจากที่พวกตนแต่งตัวเสร็จจึงได้นั่งรถไปคันเดียวกันโดยที่จอดรถทั้งสองคันไว้ในจุดที่เกิดเหตุ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่เกิดเหตุเพื่อบ้านได้โทรศัพท์บอกตนว่ารถของตนและเพื่อนผู้ปกครองที่จอดอยู่ในซอยที่เกิดเหตุถูกชน ตนก็คิดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดาไม่ร้ายแรงอะไร จึงได้นั่งรถแท็กซี่กลับมาที่บ้าน แต่พอมาเห็นรถเก๋งของเพื่อที่จอดต่อท้ายรถตนถึงกับช๊อค ถูกชนจนด้านท้ายพังยับเยิน ตนจึงได้ไปแจ้งนิติของหมู่บ้านเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ปากซอย พบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายเดินเข้าออกมาจากบ้านหลังที่ 2 ในซอยที่เกิดเหตุก่อนที่จะชายอีก 3-4 คนเดินตามหลังมาพร้อมด้วยอาวุธมีดดาบยาวประมาณ 80 เซนติเมตรมาเดินวนเวียนอยู่ 3-4 รอบ ก่อนที่จะมีรถยนต์กระบะสีดำขับเข้ามาและถอยหลังตั้งลำก่อนที่จะขับพุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋งของเพื่อนตนที่จอดอยู่ท้ายรถตนอย่างแรง ก่อนที่จะถอยหลังรถคล้ายออกมาตั้งลำก่อนที่พุ่งชนอีกครั้งเป็นรอบที่สอง ก่อนที่จะขับหลบหนีออกไปทางปากซอยหน้าหมู่บ้าน ก่อนที่ชายเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวจะเดินกลับเข้าบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนจำได้ว่ารถกระบะคันที่พุ่งชนเป็นรถของคนชื่อเก๋ มาเคยเปิดคาร์แคอยู่ที่ปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน และก็เป็นเพื่อนของเจ้าของบ้านหลังที่ตนเคยมีปัญหากันมาหลายครั้งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พอตนเอารถไปจอดฝั่งตรงข้ามหน้าบ้านหลังดังกล่าวก็จะถูกเจ้าของบ้านหลังนั้นมาต่อว่าและไม่ให้จอดโดยอ้างว่าเอารถออกบ้านไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ถนนส่วนกลางดังกล่าวมีความกว้างถึงแม้รถมาจอดฝั่งตรงข้ามแต่ก็สามารถเอารถออกจากบ้านได้ หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ เพื่อให้ติดตามตัวคนขับรถกระบะคันดังกล่าวมาดำเนินคดี เพราะตนเชื่อว่าเป็นการตั้งใจชนมากกว่าเป็นอุบัติเหตุ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: