จากกรณีคลิปกระบะพันธ์ุโหดขับพุ่งชนรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ภายในซอยจนพังยับ ล่าสุดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ เตรียมตกลงกันอีกครั้งในอาทิตย์หน้า
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ พ.ต.ท.สมัย เจริญราช พนักงานสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ เจ้าของคดี ได้ให้สองผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุมาร่วมเจรจาตกลงกัน โดยนายวิชิต เจ้าของรถยนต์เก๋งที่ถูกชน ได้ยืน 2 ข้อเสนอให้นายภัสกร คันขับรถกระบะที่พุ่งชนท้ายข้อแรกคือ ซื้อรถคันใหม่ให้ ส่วนข้อที่สองให้ชดใช้เงินค่าซ่อมเป็นเงิน 5แสนบาท ส่วนรถยนต์กระบะเชฟโรเลต นั้นนายปรัชญา เจ่าของรถ ขอให้คู่กรณีซ่อมให้เนื่องจากเสียหายไม่มาก ทั้งนี้หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เจรจากันอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายภัสกร และ นายวรรณลภ ว่าร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และนัดหมายคู่กรณีทั้งสองเจรจากันอีกครั้งในวันอาทิตย์หน้า
ข่าวน่าสนใจ:
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ตรัง ผลผ่าพิสูจน์การตายพะยูน 2 ตัว ผอม หญ้าในท้องน้อย ป่วยตาย
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
ด้านนายภัสกร เพชรชำลิ อายุ 42 ปี คนขับรถกระบะที่พุ่งชน ได้กล่าวว่า วันนั้นจะมาขนของก็ขนไม่ได้เพราะของมันอยู่ในบ้าน ก็เลยให้น้องไปตามเขาที่บ้านแต่ก็ไม่มีใครอยู่ อารมณ์กะความคิดจึงทำให้โมโหด้วยมันมีต้นไม้เป็นถังใหญ่ก็ต้องใช้คนยกหลายคนมันยกไม่ได้เพราะรถมันขวางอยู่ ไม่ใช้ว่าพี่เขาเข้าโทรตามจะให้มาทำร้ายใครแต่อย่างไรอันนั้นไม่มีจริง ๆ เพราะว่ามันยกของไม่ได้และเคยทะเลาะกับพี่เขา สวนที่ว่าตนเมาหรือไม่ตนยืนยันว่าตนไม่ดื่มเหล้า ในเรื่องนี้ตนก็ยอมรับผิดว่าตนเป็นคนใจร้อนก็ยินดีรับผิด ก็ต้องขอโทษสังคมและผู้เสียหายด้วย ตอนนี้ก็ได้มาคุยกันว่าเราจะชดใช้เขาอย่างไร เราผิดก็ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหาย เบื้องต้นก็ได้คุยกับผู้เสียหายแล้วตอนนี้ก็ต้องดูเรื่องตัวเลขว่าจะซ่อมหรือชดใช้เขาเท่าไหร่ ซึ่งต้องชดใช้กันตามสมควร เหตุเพราะมันมีเรื่องกันอยู่แล้ว ทางฝ่ายโน้นพี่เขาบ้านก็อยู่อีกฝากหนึ่ง แต่มาจอดฝั่งตรงข้ามทำให้มีเรื่องมีราวกัน ซึ่งเราก็คิดไปว่าเขาจงใจที่จะจอดรถทิ้งเอาไว้ด้วย อันนี้ตนคิดเอง ทั้งไปตามและส่งไลน์กลุ่มของหมู่บ้านแต่ก็ไม่มาขยับให้ก็เลยโมโห
ด้านนายวัชรพล เซ็มมุกดา อายุ 36 ปี เพื่อนที่มากับนายภัสกร คนขับรถกระบะที่ชน ได้เล่าว่า ตอนที่ตนเดินไปตามที่หน้าบ้านคนในบ้านได้บอกว่าเขาออกไปแข่งกีฬาสี คือว่าวันนั้นเขาบอกให้ตนมาช่วยยกของคือกระถ่างต้นไม้ใบใหญ่ก็มี แล้วพวกตนทำงานกันมาเหนื่อยแล้ว แล้วต้องมานั่งรอดึก ๆ มันก็ไม่ใช่ ตนก็ไม่คิดว่าพี่เก๋ เขาจะใจร้อนขนาดนั้นแต่เขาเป็นคนที่ไม่กินเหล้า แต่วันนั้นเขาเหนื่อยเพราะไปทำงานมาหลายที่แล้ว หลังที่พี่เก๋ ขับรถชนแล้ว ตนก็ขึ้นรถออกไปกับพี่เก๋ และขับกลับไปที่บ้านพัก ไม่ได้หนีแต่อย่างใด และตนก็เป็นคนเดินไปกดออดหน้าและไปตามหาเจ้าของเก๋งเอง คือรถจอดอยู่ฝั่งนี้แต่บ้านเข่าอยู่ฝั่งโน้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: