วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 จัดขบวนอัญเชิญพระไตรปิฎก สาธยายพระไตรปิฎก 2 แผ่นดิน ที่รวบรวมหลักธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนา เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมสาธยายพระไตรปิฎก เป็นการทรงไว้ซึ่งหลักธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้อ่านพระไตรปิฎก ในรูปแบบของภาษาบาลี
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ที่ 5 ธันวาคม 2562 ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ ต.ศีรษะจระเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา พร้อมคณะพระภิกษุสงฆ์ไทยในประเทศอินเดีย ได้ร่วมกันจัดขบวนอัญเชิญพระไตรปิฎก ซึ่งถือว่าเป็นพระคัมภีร์ตัวอักษร ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และริ้วขบวนสาธยายพระไตรปิฎก 2 แผ่นดิน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยมีพระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย – เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย –เนปาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชวรมหาวิหาร ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยริ้วขบวนอัญเชิญพระไตรปิฎก ได้เริ่มเคลื่อนขบวนเข้ามาตั้งแต่ถนนวัดศรีวารีน้อย เข้ามายังวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ประเทศไทย ก่อนที่ขบวนจะทำการเวียนทักษิณารอบองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา จำนวน 1 รอบก่อนที่จะอัญเชิญพระไตรปิฎก เข้าประดิษฐานภายในองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา ที่สร้างอยู่กลางพื้นที่ของวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ประเทศไทย ก่อนที่พระสงฆ์ไทยจำนวน 108 รูปที่เดินทางมาจากประเทศอินเดียจะได้ทำการเจริญพระพุทธมนต์
โครงการสาธยายพระไตรปิฎก 2 แผ่นดิน แผ่นดินพุทธภูมิ สู่แผ่นดินสุวรรณภูมิ ที่ทางวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นคัมภีร์สูงสุด ที่รวบรวมหลักธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนา เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมสาธยายพระไตรปิฎก เป็นการทรงไว้ซึ่งหลักธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้อ่านพระไตรปิฎก ในรูปแบบของภาษาบาลี
สำหรับการจัดโครงการสาธยายพระไตรปิฎก 2 แผ่นดิน ที่จัดขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งได้จัดขึ้นในวันและเวลาเดียวกันกับโครงการสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ 15 ณ โพธิมณฑล ต้นศรีมหาโพธิ์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สถานที่ตรัสรู้ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยวัตถุประสงค์ของการเชื่อมโยงทั้ง 2 โครงการฯ ขึ้นมาพร้อมกันนี้ เนื่องด้วยวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสาธยายพระไตรปิฎก ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกซึ่งความเป็นพุทธบริษัท ด้วยการมีส่วนร่วมในการสาธยายพระไตรปิฎก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย อีกทั้งเป็นการรวมศูนย์เนื้อนำบุญพุทธบริษัททั้ง 4 ประการ ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา และประชาชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาในการสร้างบุญ บารมี และมีความเชื่อมั่นในคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระไตรปิฎก เป็นคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ การสาธยายพระไตรปิฎก ด้วยเสียงแห่งพระบาลีที่เป็นพลังเสียงเดียวกับที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย เสมือนหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ดั่งที่ทรงตรัสไว้ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นคถาคต ด้วยสาระสำคัญของโครงการสาธยายพระไตรปิฎก จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อสถาบันครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ยังรวมถึงการร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่ได้โยงใยถึงการสาธยายที่พุทธคยา ซึ่งเป็นต้นแบบ จะช่วยสร้างความศรัทธาให้กับพุทธศาสนิกชน ร่วมกันสร้างรากฐานของความดี ความมั่นคงแก่ประเทศไทยความสงบร่มเย็นเป็นสุขทั่วกัน ช่วยให้เกิดความสามัคคีร่วมมือกันทุก ๆ ฝ่าย
พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย – เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ประธานดำเนินการก่อสร้างวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 และเป็นผู้ริเริ่มโครงการ ฯ ได้กล่าวว่า พระไตรปิฎก เป็นคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้ ที่พุทธคยาได้ยกระดับขึ้นเป็นงานหลักที่ชาวโลกให้ความสำคัญ รอบพระมหาเจดีย์พุทธคยา จะกึกก้องด้วยเสียงแห่งพระบาลีโดยความเมตตาได้อนุโมทนาอนุมัติให้มีการสาธยายพระไตรปิฎกในประเทศไทย ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี 989 ในวันและเวลาเดียวกันกับประเทศอินเดีย นอกจากจะมีความสำคัญต่อคนไทยและชาวพุทธทั้งหลาย ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสืบทอดพระพุทธศาสนา หรือเป็นการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาอีกด้วย
