พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. นำกำลังเข้าตรวจโรงงานปล่อยควันดำ ย่านบางบ่อ ในระหว่างที่กำลังเดินทางตรวจสอบโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันสีดำ ออกมาจากปล่องภายในบริษัทใกล้กับโรงงานเป้าหมาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2561 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ต.อ.สรวิช สุขแพทย์ ผกก.สภ.บางบ่อ นายชนะ หงวนงามศรี สมาชืก อบจ.สมุทรปราการ คณะกรรมการและสิ่งแวดล้อม นายสมพล โนดไธสง อุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.บางบ่อ ทหารชุด ชป.ร้อยรส.อำเภอบางบ่อ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษและหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นภายในโรงงานไทยอินซูโฟมอุตสาหกรรม จำกัด เลขที่ 219 ม.2 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ สืบเนื่องมาจากในระหว่างเดินทางเข้าตรวจสอบ บริษัท หวางเสี่ยวตงอิเล็กทรอนิกส์ จำกัด ทาง พล.ต.อ.วิระชัย ได้สั่งเกตุเห็นกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากปล่องควันภายในโรงงานดังกล่าวจำนวนมา หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจภายในบริษัท หวางเสี่ยวตงอิเล็กทรอนิกส์ จำกัด จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
- ลำพูน บุกจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ ทำเนียนปลอมเป็นไรเดอร์ แต่วิ่งส่งบุหรี่ไฟฟ้า
- รวบหนุ่มแสบลักทรัพย์โรงเรียนดัง จ.ขอนแก่น
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
บริษัทดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตโฟม โดยพบว่ามีการใช้ถ่านหินเป็นพลังงานในการให้ความร้อนเพื่อทำการผลิตโฟม แต่ไม่ได้มีการจัดการเรื่องการฟอกอากาศที่ปล่อยออกมา ทำให้มีกลิ่นเหม็น
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. กล่าวว่า ในระหว่างทางที่กำลังเดินทางเข้าไปตรวจสอบโรงงานคัดแยกขยะที่เป็นเป่าหมาย ได้ปล่องควันโขมงจำนวนมากจนฟ้ามืด จำเข้ามาตรวจสอบ จากการเข้ามาตรวจสอบพบว่าเป็นโรงงานผลิตโฟม และมีการนำถ่านหินมาใช้เป็นเชื่อเพลิง และไม่มีเครื่องจัดการฟอกอากาศ ก็คือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ในการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นถ่านหิน หลังการเผาไหม้แล้วจะมีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งถือว่าเป็นก๊าซอันตราย ที่โรงงานถ่านหินที่ประชาชนกลัวกันมากก็คือ ในเรื่องของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มาจากถ่านหิน จากที่เห็นปล่องควันเมื่อช่วงเช้าแสดงว่าเกิดก๊าซอันตรายสูงมาก ควันที่เราเห็นเป็นก๊าซสีเหลือ คือ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และโรงงานที่ใช้ถ่านหินจะต้องมีระบบฟอกอากาศโดย สเปรย์ ปูขาว หรือว่าลามสโตนเข้าไปผสมกับอากาศ เพื่อดึงซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และสเปรย์ระอองน้ำเข้าไปพร้อม ๆ กัน เพื่อทำปฏิกิริยาให้ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จับกับตัวปูนขาว กลายมาเป็นยิปซั่ม แล้วก็ตกลงมา แต่ในกรณีนี้ไม่เห็นล่องลอยของการกำจัดก๊าสซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เหล่านั้น จึงหน้าเชื่อว่า อากาศที่ออกจากปล่องควันนั้นไม่ได้มาตรฐาน และมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์สูง และในส่วนนี้ จะให้เจ้าหน้าที่กรมมลพิษ มาเก็บตัวอย่างต่อไป และในกรณีถ่านหิน ในช่วงฝนตกลงมาน้ำชะถ่านหิน เดี๋ยวต้องไปดูว่ามีระบบบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากโรงงานและการชะล้างถ่านหิน ลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือไม่ และจะตรวจระบบป้องกันฝุ่นระอองว่ามีมากน้อยเพียงใด เท่าที่ดูพื้นที่ของบริษัท ไม่เอื้ออำนวยที่จะทำให้เกิดการ ควบคุมสิ่งแวดล้อมทั้งในเรื่องของฝุ่นระออง น้ำเสีย และในเรื่องของก๊าซพิษที่เกิดระบบการเผาไหม้ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื่อเพลิง โดยที่ยังไม่มีระบบฟอกอากาศจากถ่านหิน ในส่วนของโรงงานจะให้ทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดเข้ามาตรวจเครื่องจักแต่ละตัวได้มาตรฐานหรือไม่ และการปล่อยมลพิษออกเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ ตามที่ตนกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเรื่องการปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน การที่มีฝุ่นระออง การที่มีกลิ่นฉุน ออกนอกโรงงาน เป็นหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษ จะต้องมาตรวจ ถ้าหากพบว่าทำผิดก็จะดำเนินคดี และหากพบว่ามีการปนเปื้อน ก็จะดำเนินการฟ้องร้องคดีทางแพ่ง ให้โรงงานที่เป็นผู้ก่อเหตุให้เกิดความเสียหายการปนเปื้อน ในเรื่องของมลภาวะ แก้ไข เยียวยา รักษา ให้สิ่งแวดล้อมนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม
หลังจากให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวได้เดินตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของบริษัทดังกล่าว พบน้ำดำในท่อระบายน้ำลักษณะคล้ายน้ำที่ล้างถ่านหิน มีการปล่อยน้ำออกสู่ภายนอก จึงให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบตักน้ำตรวจสอบค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจะดำเนินการนำน้ำที่ตักมาไปตรวจสอบที่ห้องแลปอีกครั้ง
เบื้องต้นให้กรมควบคุมมลพิษนำน้ำเสียไปตรวจหาโลหะหนัก และแจ้งข้อหา ตามพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ม 8 (5) กำหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสียมลพิษหรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน มีโทษปรับไม่เกิน 2แสนบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: