จากกรณี 4 นักท่องเที่ยวที่จมน้ำเสียชีวิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ล่าสุดวิญญาณเฮี้ยนไปล๊อกประตูแกล้งยายและแกล้งน้องชาย
จากกรณี 4 นักท่องเที่ยวที่จมน้ำเสียชีวิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ที่ 30 ธันวาคม 2562 ซึ่งทั้ง 4 เป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ ประกอบด้วย นายธนพรรณ ทองจรัส อายุ 21 ปี นายศุภกรณ์ โสรส น้องโอ๊ต อายุ 22 ปี นายบุญญฤทธิ์ ภักดีถวัลย์ หรือ น้องดิว อายุ 20 ปี และนายปรีชา โสมมา อายุ 21 ปี หลังจากที่ญาติได้เคลื่อนศพผู้ตายทั้ง 4 มาตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดสวนส้ม ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อวานเป็นคืนแรก
ข่าวน่าสนใจ:
ความคืบหน้าในช่วงเย็นของวันนี้ที่ 1 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางสังเกตการณ์ที่ศาลาที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของผู้ตายทั้ง 4 ภายในวัดสวนส้ม และได้รับการเปิดเผยจาก นางสาว อภิริติ เฉิดไธสง อายุ 21 ปี หรือน้องมิ้น แฟนสาวของนายบุญญฤทธิ์ หรือน้องดิว ผู้ตายที่เดินทางไปด้วยกันขณะเกิดเหตุ ได้เล่าว่า ตนเองคบหากับดิว มาได้ประมาณ 2 ปีเศษ โดยก่อนที่จะเดินทางไปยังที่เกิดเหตุดิว เคยบ่นให้ตนฟังว่าคิดถึงพ่อที่พึ่งเสียไปได้ประมาณเดือนเศษ และอยากไปหาพ่อ โดยบ่นอยู่อย่างนี้อยู่หลายครั้ง และในวันก่อนที่จะเดินทางดิวได้นำรถไปล้าง และพูดกับตนว่าถ้าดิว ไม่อยู่ ตนจะอยู่ได้หรือเปล่าและจะอย่างอย่างไรเพราะตนไม่เคยทำอะไรเลย และดิว ก็ยังบอกว่าเป็นห่วงตนมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไร และในวันที่เดินทางไปเคาท์ดาวน์ที่แก่งกระจาน ก่อนเดินทางก็ได้ตั้งใจกันว่า จะแวะไปไหว้พระที่เขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี ก่อนที่จะเข้าไปที่พัก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปไหว้เพราะต่างพากันขับรถเลยไปโดยมีพี่ปรีชา เพื่อนรุ่นพี่เป็นคนขับรถนำหน้า แต่ทุกคนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติในวันหยุดก็จะขับรถไปเที่ยวกันเป็นประจำอยู่แล้ว จนกระทั่งไปถึงที่พักในอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานก็เกิดเหตุดังกล่าว และตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะสูญเสียดิวไปแบบนี้ เมื่อคืนซึ่งเป็นวันสวดศพครั้งแรกหลังจากที่ตนกลับบ้านไปในระหว่างที่ตนนอนหลับเวลาประมาณ 03.00 น.ดิวก็ได้มาเข้าฝันแต่ไม่ได้พูดอะไร ดิวมานั่งมองหน้าตนอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหายไปซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนสะดุ้งตื่นพอดี ตนคิดว่าดิว น่าจะเป็นห่วงตนมาก
และมาในตอนเช้ายายของดิว ก็ได้โทรมาบอกว่า เมื่อคืนน้องดิวมาแกล้งย้าย เพราะปกติแล้วดิวจะรักยายมากและชอบแกล้งยายอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อคืนนี้ดิว ได้ล็อกประตูแกล้งขังยายอยู่ในห้องจนยายต้องโทรศัพท์เรียกหลานให้มาเปิดให้ และดิว เองก็ยังไปแกล้งกอดและหอมน้องชายของดิว ที่มีอายุเพียง 4 ขวบ เพราะปกติแล้วดิว จะรักน้องชายเขามากและต้องไปเข้ากอดไปหอมทุกวัน เมื่อคืนก็เช่นกันน้องชาย ได้พูดว่าพี่ดิว มากอดและหอมแก้ม ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังถึงกับน้ำตาไหล
ด้านนางอุลัย เฉิดไทสง อายุ 40 ปี แม่ของน้องมิน แฟนสาวของดิว ได้เล่าว่าน้องดิวเป็นคนดีมากรู้จักกับน้องมิ้น ตั้งแต่เรียนอยู่ในชั้นมัธยม ก่อนที่จะห่างกันไป มาเจอกันอีกทีตอนเรียนมหาวิทยาลัยบ้านสมเด็ด ดิวเป็นคนขยันและรักและเป็นห่วงทุกคนไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของตนเองและญาติของน้องมิ้นเอง และดิวยังเคยพูดว่าไม่อยากเรียนแต่อยากไปช่วยคุณแม่ขายของ มากกว่าแม่จะได้ไม่เหนื่อย ระหว่างที่ดิวยังเรียนอยู่ ในวันหยุดดิวก็ยังหางานทำเอาเงินไปช่วยเหลือครอบครัว ดิวเป็นคนน่ารักมาก และเมื่อก่อนนี้ดิวจะขี่รถจักรยานยนต์พากันไปไหนมาไหนกัน ด้วยความเป็นห่วงตนและแฟนจึงได้ซื้อรถเก๋งให้ดิว เอาไว้ขับพาน้องมิ้น ไปไหนมาไหนแทนเพราะเป็นห่วง ตนไม่คิดว่าดิวจะมาจากไปเร็วแบบนี้ และน้องมิ้น เองก็ทำใจไม่ได้
ด้านนางทองใบ โสมา อายุ 56 ปี และนายเจริญ โสมา อายุ 62 ปี พ่อและแม่ของนายปรีชาชา หรือบอล ได้เล่าว่า หลังเกิดเหตุน้องบอล ก็หายไปเลยไม่มาเขาฝันหรือมาบอกกล่าวอะไรกับตนเลย แต่ก่อนที่เขาไปเที่ยวกันย่าของแฟนเขาฝันว่ามีคนแก่มาจากภาคอีสานหลายคนมานั่งอยู่เต็มหน้าบ้านเลย เขาก็เลยพากันไปทำบุญให้ อันนี้ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า และก่อนที่จะไปเที่ยวกันบอล ก็นัดเพื่อน ๆ มารอมาจัดของขึ้นรถกันที่หน้าบ้านตน ตนก็ยืนมองเห็นเพื่อนของบอลที่ไปเที่ยวด้วยกันนั่งอยู่บนรถก็มีแต่คนเศร้า ๆ ทั้งหมดก่อนที่จะไปกันไม่เหมือนคนที่จะไปเที่ยวหรือหาความสุขกันแต่อย่างไร ซึ่งตนก็ไม่สบายใจก่อนที่พวกเขาจะออกรถไปแต่ตนก็ไม่ได้คิดอะไรก็ได้แต่เตือนให้ขับรถกันดีดีเท่านั้น และไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเป็นรางบอกเหตุอะไรไม่มีใครคิดตรงนั้นเลย และเห็นว่าย่าแฟนเขาฝันไม่ดี และก่อนหน้านี้ในวันที่เกิดเหตุเวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็นในวันที่เกิดเหตุอยู่ ๆ กริ่งหน้าบ้านย่าของแฟนเขาก็ดังขึ้นยาวไม่หยุดเลยเหมือนมีคนมากดแช่เอาไว้ น่าจะเป็นช่วงที่เกิดเหตุ จนย่าต้องไปถอดปลั๊กกริ่งออก เหมือนกับว่าเขาไปที่หน้าบ้านไปกดกริ่งเรียกย่าแฟนเขา แต่ทางโน้นก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแต่อย่างใด
ด้านนายเจริญ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนยังติดใจอยู่ว่า สถานที่จุดที่เกิดเหตุทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่หรือคนค่อยดูแลในเรื่องความปลอดภัยเลย และทำไมนักท่องเที่ยวลงไปพายเรือทำไมไม่บังคับให้สวมใส่เสื้อชูชีพ และไม่มีการปักธงแดงในจุดที่ไม่ปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้หรือห้ามลงไปเล่นในบริเวณนั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุทราบมาว่าในจุดที่เกิดเหตุในครั้งนี้ เมื่อประมาณต้นปีที่แล้วก็เกิดเหตุแบบเดียวกันในจุดนั้นมีคนจมน้ำเสียชีวิตมาแล้ว 4 คนเช่นกัน ตนอยากให้มีการตรวจสอบตรงนี้ เพราะทุกคนที่เข้าไปใช้บริการตรงนั้นเสียเงินในผู้ประกอบการทุกคน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูในเรื่องนี้ให้ด้วย หลังจากเสร็จพิธีศพของลูกชายแล้วตนจะลงไปติดตามเรื่องที่โรงพักที่เกิดเหตุ
ส่วนญาติของนายธนพรรณ ทองจรัส อายุ 21 ปี และนายศุภกรณ์ โสรส น้องโอ๊ต อายุ 22 ปี ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยในเรื่องใด ๆ เนื่องจากอยู่ระหว่างเศร้าโศกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนนั้นจะเผาไม่พร้อมกัน โดยจะมีการตั้งสวดตั้งแต่ 3 วัน 4 วันและ 5 วัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: