นักศึกษาสาวหอการค้าถูกงัดห้องลักทรัพย์ ในระหว่างที่ไปเรียน แล้วค้างที่หอพักใกล้วิทยาลัย กลับมาพบว่าข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้น รวมทรัพย์สินที่สูญหายไปมูลค่ากว่า 7 หมื่นบาท คาดคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะอยู่ในละแวกใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 13 มกราคม 2563 ร.ต.ท.อดิเทพ โพธิ์เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 23 / 95 หมู่ 2 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีทรัพย์สินหายหลายรายการมูลค่าเกือบ 1 แสนบาท หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ที่ภายในห้องนอนชั้นสองได้พบว่าถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจายที่บริเวณลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งและประตูกระจกซึ่งเป็นที่เก็บทรัพย์สินประเภทเงินสดและทองรูปพรรณถูกเปิดอ้าอยู่ และที่หน้าต่างด้านข้างห้องนอนที่เกิดเหตุถูกเปิดอ้าอยู่ร่วมทั้งหน้าต่างมุ้งลวดที่ถูกดันจนเขี้ยวล็อกหักผ้าม่านถูกดันไปรวมกันอยู่ด้านข้าง เจ้าหน้าที่วิทยาการได้ทำการตรวจเก็บรายนิ้วมือที่บริเวณหน้าต่างและโต๊ะเครื่องแป้งที่คาดว่าคนร้ายน่าจะจับต้องเพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้าย
จากการสอบถาม น.ส.ณริณท์รดาค์ สิริโยธิน อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองเดินทางไปค้างที่หอพักใกล้วิทยาลัยหอการค้าที่ตนเองเรียนอยู่ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาโดยปิดล็อกห้องเอาไว้ ซึ่งมีตากับยายพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่อยู่ด้านหน้า และมีน้องชายพักอยู่ชั้นล่าง และในตอนกลางวันจะไม่มีใครอยู่บ้านมีเพียงตากับยายเท่านั้น จนกระทั่งในช่วงหัวค่ำวันนี้ ตนได้เดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเหตุ ก็ยังพบว่าประตูที่หน้าห้องยังคงล็อกกุญแจอยู่เป็นปกติ แต่พอตนเปิดประตูห้องเข้าไปก็ต้องตกใจเพราะว่าลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งและประตูกระจกที่โต๊ะเครื่องแป้งถูกเปิดอ้าอยู่ และข้าวของในห้องถูกรื้อจนกระจัดกระจาย ตนจีงรีบเข้าไปตรวจดูทรัพย์สินประเภทเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท และทองรูปพรรณ ทั้งสร้อย แหวน สร้อยข้อมือและกรอบพระทองคำน้ำหนักรวมกว่า 3 บาท ที่เก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งได้หายไปร่วมทั้งกล้องถ่ายรูปอีก 1 ตัวที่ว่างไว้บนโต๊ะที่พึ่งซื้อมาได้ไม่นานราคาหมื่นกว่าบาทได้หายไปด้วย รวมทรัพย์สินที่สูญหายไปมูลค่ากว่า 7 หมื่นบาท และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาทางหน้าต่างข้างห้องนอนที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะอยู่ในละแวกใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุ และน่าจะเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานหลายวัน จนกระทั่งแน่ใจว่าผู้เสียหายไม่กลับมานอนที่บ้านครั้งละหลาย ๆ วัน จึงได้ลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
