พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านชี้แจง กรณีการจัดงานมหกรรมศูนย์รวมใจไทย 4 ภาค ภายใต้ชื่อ ”เปิดตำนานอาณาจักรศรีโคตรบูร” ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์-8 มีนาคม 2563 รวม 17 วันที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม แล้วถูกชาวบ้านคัดค้าน
ตามข่าวที่มีการนำเสนอตามสื่อต่าง ๆ ว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้ออกมาคัดค้านการจัดงานมหกรรมศูนย์รวมใจไทย 4 ภาค ภายใต้ชื่อ”เปิดตำนานอาณาจักรศรีโคตรบูร” ระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์-8 มีนาคม 2563 รวม 17 วันที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม โดยมีบุคคลอ้างว่าได้รับฉันทานุมัติจาก ” บิ๊กจิ๋ว ” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานจัดงานโดยมีบริษัทไทก้าแมกซ์ เป็นออแกไนซ์การจัดงานครั้งนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
ซึ่งทางจังหวัดนครพนม ได้รับหนังสือและได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ และภาคเอกชน เข้าประชุมหารือการจัดงานมหกรรมศูนย์รวมใจไทย 4 ภาค เปิดอาณาจักรศรีโคตรบูร เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม โดยบริษัทไทก้าแมกซ์ เป็นออแกไนซ์การจัดงานครั้งนี้ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ได้เปิดเผยว่าจะใช้ถนนสุนทรวิจิตร ริมแม่น้ำโขง จัดงานมหกรรมฯ ยาวถึง 4 กิโลเมตร รวม 17 วัน 17 คืน มีเวทีกลาง 2 แห่ง พร้อมบูธสำหรับออกร้านประมาณ 1,000 บูธ ซึ่งโดยอ้างว่าหากต้องปิดถนนนานถึง 17 วัน ธุรกิจร้านค้าของคนในจังหวัดจะได้รับผลกระทบแน่นอน เมื่อมีการเตรียมจัดงานยาวกว่าครึ่งเดือนเช่นนี้ จึงไม่เชื่อว่าพ่อใหญ่จิ๋ว จะเป็นผู้จัดงานด้วยตนเอง หากท่านจัดจริงน่าจะมีแบบแผนที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่จู่โจมอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ขณะคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่อยู่ในจังหวัดนครพนม เผยว่าไม่น่าจะใช่ท่านเป็นคนต้นคิด อาจจะมีบางคนไปขอให้ท่านเป็นประธาน โดยอ้างเปิดตำนานอาณาจักรศรีโคตรบูร
ในวันนี้ที่ 16 มกราคม 2563 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือบิ๊กจิ๋ว ได้เปิดบ้านชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า งานมหกรรมศูนย์รวมใจไทย 4 ภาค”เปิดตำนานอาณาจักรศรีโคตรบูร” มีหลายประเทศขอให้ไปจัดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว เขมร พม่า เพราะการรื้อฟื้นประวัติศาสตร์ การเอาของดีในประเทศ มาอวดชาวต่างประเทศ ระหว่างประเทศของเราตกต่ำเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การลงทุนหรือการดำเนินการทุกอย่าง นี่คือสิ่งที่จะไปเร่งเร้าให้มันเกิดขึ้น น้อง ๆ ทุกคนคงตระหนักดีนะว่ามันจำเป็นที่จะสร้างจะทำหรือไม่ เวลานี้ก็รอคำตอบจากพี่น้องจากนครพนม แต่ก็รู้สึกว่ามีคนไม่เห็นด้วย อันนี้แค่รู้สึกนะ เพราะถ้ามีคนเห็นด้วยต้องมีคนยกหูมาบอกแล้ว แต่รู้สึกว่าคนนครพนมไม่ต้องการ ส่วนในเรื่องการจัดงานในครั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่ามีการชี้แจงในวัตถุประสงค์ของการจัดงานให้ชาวบ้านทราบหรือเปล่า ตนก็ไม่ทราบ แต่ทีมที่จัดไปนี้เป็นทีมชั้น 1 และเราจะไปทำอย่างนั้นไม่ได้เราต้องไปชี้แจงให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นคนสำคัญสูงสุดในจังหวัดรับทราบ และท่านผู้ว่าเองก็คงจะรู้อยู่แล้วเพราะตนพูดล่วงหน้าไปแล้วต้องไม่รู้กี่เดือนไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และตามเอกสารหนังสือที่ปรากฏในข่าวเป็นหนังสือที่ตนทำไปจริง หรือดูสิเหมือนรถถังหรือเปล่า ถ้าอย่างนี้คำตอบหมายความว่าคนในระดับสูงในนครพนม เขาไม่ต้องการ ก็ยังเหลือคนระดับล่างว่าจะต้องการหรือไม่ เพราะหัวใจไม่ใช่คนระดับสูง หัวใจอยู่ที่ประชาชน จำไว้ทุกการปกครองอยู่ที่ประชาชน ส่วนที่ใครที่จะมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวของการเมืองหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบเพราะตนก็ไม่ได้เล่นการเมือง
ส่วนการจัดงานมหกรรมศูนย์รวมใจไทย 4 ภาค ผู้ประสานงานเป็นทีมงานชั้นเลิศ ตนก็ไม่เข้าไม่เข้าใจผู้ประสานงานท่านก็งง ว่าทำไม่ตนไม่ไปบอกไว้หรืออะไรซึ่งในท้ายที่สุดท่านก็เห็น อย่างน้อยท่านก็สงสัยว่าจดหมายฉบับนี้ถึงออกมาได้ และท่านก็พยายามอธิบายในทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็ไม่มีคำขอเลยว่าไอ้ 4 กิโลที่ว่ามันยากนั้นเพราะอะไร วันนี้ลองไปดูวันนี้ถ้าไม่มีงาน ติดขัดการจราจรหรือเปล่าและไม่มีงานมีจราจรหรือไม่ รถติดขัดไม่มีคนวิ่งตอนเช้าได้อะไรได้ ไม่ได้ว่ากัน แก้กันได้ ก็แทนที่จะเป็น 4 กิโล ก็ทำให้มันเหลือสัก 3 กิโล และก็อยากจะถามว่าในฐานะสื่อมวลชนถือว่าภาระหน้าที่เป็นสำคัญที่สุดคืออะไร คือเราต้องเอาความจริงปรากฏให้กับผู้คน เราไม่ได้ไปว่าใครนะ แต่อย่างไรก็แล้วแต่อุปสรรคไม่ใช้สิ่งสำคัญ ถ้าพวกเรายอมแพ้เดี๋ยวนี้แล้วลูกหลานจะอยู่อย่างไร
ด้านนายภูริภพ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ตัวแทน บริษัท ไทก้า แมกซ์ จำกัด ตามเดิมที่เคยแพนงานว่าจะจัด 4 กิโลเมตร มันก็มีปัญหาในเรื่องบริเวณริมโขงซึ่งเป็นที่นัดคนปั่นจักรยานและออกกำลังกายบริเวณถนนด้านหน้า กับระยะเวลาในการจัดงานยาวนานมาก ซึ่งในจังหวัดไม่เคยจัดงานยาวนานขนาดนี้ ซึ่งทางหอการค้าและตำรวจภูธรจังหวัดก็ได้เสนอให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากันคนนครพนมและส่งผลกระทบน้อยที่สุดหลังจากที่เข้าประชุมร่วมกันในวันนั้น เราก็ได้กลับมาทำการปรับแผนงานจาก 4 กิโลอาจจะเหลือแค่ 2 กิโลและจะไม่ใช้พื้นที่ทางเท้าเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนในพื้นที่ ส่วนเรื่องการออกบูธและร้านค้าต่าง ๆ เราจะใช้บูธร้านค้าเฉพาะในจังหวัดเท่านั้นตามแผนใหม่ ส่วนผู้ค้าเดิมที่ค้าขายกันในตอนกลางคืนเราก็จะเอางานเรากับเขาเหล่านั้นมารวมกันโดยมีคิดค่าใช้จ่าย โดยทางเราจะทำบูธให้ ตอนนี้เป็นการทำงานกันระหว่างทีมงานของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับทางคณะทำงานของทางจังหวัด อีกไม่เกิน 1 สัปดาห์จะมีแผนงานที่แน่ชัดออกมา สรุปแล้วตอนนี้เราพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนงานทั้งหมดเพื่อให้เหมาะสมกับคนนครพนม เราอยากทำงานให้ดีที่สุดตามที่พ่อจิ๋ว คาดหวังเอาไว้ที่จะให้เกิดขึ้นทั้งเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจเรื่องการค้าขายเรื่องการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด งานนี้มันไม่ได้ถูกจัดขึ้นในที่นี้ที่เดียว แต่งานนี้จะถูกจัดขึ้น 4 ภาคทั่วประเทศไทยทุกปี ปีละ 2 ภาค แล้วก็จะวนกลับมาเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดต่าง ๆ ให้มันเกิดขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: