โจ๋โหดควบเก๋ง 3 คันไล่ชนจักรยานยนต์หนุ่มสักยันต์ล้มลากเข้าป่าชักปืนยิงก่อนอุ้มขึ้นรถหวังเอาไปทิ้ง โชคดีผู้บาดเจ็บฟื่นฮึดสู้หนึลงจากรถขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะซิ่งรถหลบหนี
เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ร.ต.อ.สหัสพล พุ่มอิ่ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บริเวณใต้สะพานทางด่วนกาญจนาภิเษก บริเวณทางลงถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสี่แยกศรีเทพา ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุริมถนนศรีนครินทร์ ได้พบเพียงรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีขาวส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ ที่บริเวณพื้นถนนได้พบเสื้อยืดคอกรมสีน้ำเงินตกอยู่พร้อมด้วยรองเท้าแตะสีดำอีก 1 คู่ ในป่าหญ้าข้างทางใต้ทางด่วนดังกล่าวได้พบลอยเลือดหยดเป็นทาง แต่ไม่พบตัวผู้บาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ว่ามีชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส หนีลงจากรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ด สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่บริเวณกลางซอยศรีด่าน 3 หมู่ 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ถูกยิงและถูกอุ้มขึ้นรถมาจากที่เกิดเหตุใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และมาหนีลงจากรถได้ที่บริเวณดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
พบผู้บาดเจ็บเป็นชายไม่ทราบขื่ออายุประมาณ 30 ปี นุ่งกางเกงยีนส์สีดำขาสามส่วนเพียงตัวเดียว ที่ลำตัวด้านหน้าและขาทั้ง 2 ข้างมีรอยสัก มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณหน้าท้องและรวม 4 นัด ที่หน้าผากมีบาดแผลแตก นอนฟุบจมกองเลือดอยู่ที่หน้าร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่มีชื่อเลขที่ 17 / 9 หมู่ 5 ซอยศรีด่าน 3 ต.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้เร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
จากการสอบถามนายณรงค์ พิศจาร อายุ 28 ปี เจ้าของร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนและเพื่อน ได้นั่งดื่มเหล้าและวางแผนงานกันอยู่ในร้าน ได้พบเห็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ด สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดอยู่เบิ้ลเครื่องเสียงดังอยู่กลางถนนหน้าร้านตน พักใหญ่รถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับออกไปด้วยความเร็ว ก่อนที่ชายผู้บาดเจ็บจะเดินมาจากจุดที่รถเก๋งจอดเข้ามาขอความช่วยเหลือจากตนทั้งสองในสภาพเลือดท่วมตัวหน้าผากแตก ด้วยความตกใจตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะเดียวกันพยานในจุดที่พบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งอยู่ที่บริเวณใต้สะพานทางลงด่วนกาญจนาภิเษกที่เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็น ผู้บาดเจ็บ ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจากสามแยกการไฟฟ้าลอดใต้สะพานทางด่วนดังกล่าวมา โดยมีรถยนต์เก๋งจำนวน 3 คัน ขับไล่หลังมา คันแรกยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ด สีดำ และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ด สีขาว ส่วนอีกคันไม่ทราบว่ายี่ห้อและสีอะไร ได้ขับไล่หลังรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บมาจนกระทั่งออกมาถึงที่เกิดเหตุ รถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้าแจ๊ด สีดำ ได้เบียดรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บจนล้ม ก่อนที่รถเก๋งทั้ง 3 คันจะจอดและมีชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คนเปิดประตูลงมาและลากผู้บาดเจ็บเข้าไปในป่าหญ้าข้างทางและได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด ก่อนที่ชายฉกรรจ์ทั้งหมดจะพากันอุ้มร่างผู้บาดเจ็บออกมาจากป่าหญ้ามาขึ้นรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ด สีดำและพากันขับออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทางสีแยกศรีเทพา ส่วนผู้บาดเจ็บที่ที่เข้าไปขอความช่วยเหลือจากร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเป็นคนเดี๋ยวกับที่ถูกอุ้มขึ้นรถไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บน่าจะขับรถไล่กันมาตั้งแต่สามแยกการไฟฟ้า จนมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ขับเข้าชนรถผู้บาดเจ็บจนล้มก่อนที่จะช่วยกันลากตัวผู้บาดเจ็บเข้าไปในป่าหญ้าและใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บหลายนัด จนผู้บาดเจ็บหมดสติ และคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ช่วยกันอุ้มขึ้นรถเก๋งเพื่อที่จะนำไปทิ้งในป่าหญ้าภายในซอยศรีด่าน 3 พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 3 กิโลเมตร แต่พอเข้ามาถึงกลางซอยดังกล่าว ผู้ตายเกิดฟื้นคืนสติและพยายามต่อสู้กันในรถ จนผู้ก่อเหตุไม่สามารถขับรถต่อได้จึงต้องจอดรถกลางถนน ผู้บาดเจ็บจึงได้จังหวะเปิดประตูหลบหนีลงมาจากรถได้ ส่วนผู้ก่อเหตุเห็นว่ามีคนเห็นรถตนเองขณะจอดอยู่กลางถนน จึงรีบเร่งเครื่องหลบหนีไป อย่างไรก็ตามคงต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าผู้บาดเจ็บและน่าจะรู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงเพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
