https://youtu.be/Nf18C4RX-iQ
เฒ่าวัย 77 ปี เครียดเก็บเงินค่าเช่าที่ในตลาดส่งเจ้าของตลาดไม่ได้ครบถูกดุด่า ตัดสินใจผูกคอตายดับคาบ้านพัก ซึ่งอยู่ข้างตลาด ซอยกิ่งแก้ว 33 หมู่ 14 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.ท.อัสนีชัย เร่งเทียน สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายสูงอายุผูกคอตัวเองเสียชีวิตอยู่บ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ข้างตลาด ซอยกิ่งแก้ว 33 หมู่ 14 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.บางแก้ว และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพร้อมมูลนิธิป่อเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียวภายในบ้านหลังดังกล่าวบริเวณหน้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านใน ได้พบศพนาย ช้วน เจริญรส อายุ 77 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่พื้นห้อง โดยที่ลำคอมีสายสัญญาณเสาอากาศโทรทัศน์สีขาวผูกอยู่ ด้านปลายเป็นรอยขาด ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งที่มีความยาวประมาณ 1 เมตรผูกติดอยู่กับโครงเหล็กหลังคา ที่มีซ้ายของผู้ตายกำไม่แขวนเสื้อสีเขียวเอาไว้ และที่กลางหน้าผากของผู้ตายมีบาดแผลแตกเป็นแนวตั้งยาวประมาณ 3 เซนติเมตร มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก จึงประสานแพทย์โรงพยาบาลบางพลี เข้าร่วมตรวจสอบพบว่าบาดแผลดังกล่าวเป็นบาดแผลแนวตั้งยาวประมาณ 3 เซนติเมตร แต่ลึกไม่ถึงกะโหลก ส่วนที่ผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กับพื้นนั้นคาดว่าสายสัญญาณอากาศเสาโทรทัศน์รับน้ำหนักไม่ไหวจึงขาดทำให้ร่างของผู้ตานตกลงมาคว่ำหน้าดังกล่าว ส่วนบาดแผลคาดว่าในขณะที่ผู้ตายตกลงมาคว่ำหน้าหน้าผากของผู้ตายน่าจะกระแทกเข้ากับขอบพื้นปูนที่มีความต่างระดับอยู่เล็กน้อย ที่เอวของผู้ตายมีกระเป๋าคาดเอวสีดำของผู้ตายคาดอยู่ จากการตรวจสอบพบในกระเป๋ากางมีเงินสดอยู่จำนวน 8,500 บาทพร้อมโทรศัพท์ของผู้ตายอีก 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน
จากการสอบถามปัญญา กองนอก อายุ 33 ปี หลานผู้ตาย ได้เล่าว่า ผู้ตายทำงานเป็นคนเก็บค่าเช่าที่ในตลาดอยู่ติดกับบ้านพักของผู้ตายโดยทำหน้าที่เก็บเงินมานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งจะคอยเก็บเงินค่าเช่าที่ในตลาดในวันสิ้นเดือนและวันต้นเดือนผู้ตายจะต้องเก็บค่าเช่าที่ในตลาดให้แล้วเสร็จจะได้เงินประมาณ 2 แสนเศษและเจ้าของตลาดจะมารับเงินในวันที่ 2 ของทุกเดือนและในเดือนนี้ก็เช่นกันหลังจากที่ผู้ตายเดินเก็บเงินค้าเช่าที่ในตลาดรวบรวมเงินเรียบร้อยแล้วและเก็บเอาไว้ในกระเป๋าคาดเอวและในวันนี้เจ้าของตลาดจะมารับเงินในช่วงเย็นแต่โทรหาผู้ตายไม่ติด จึงได้โทรศัพท์หานายบัญญัต สกุนตศรี อายุ 42 ปี ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดให้มาดูผู้ตายที่บ้านพัก แต่เมื่อมาถึงได้พบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นภายในบ้านโดยมีสายสัญญาณเสาอากาศโทรทัศน์ผูกอยู่ที่ลำคอ ส่วนเงินที่ผู้ตายเก็บค่าเช่ามาประมาณ 2 แสนบาทตามที่ผู้ตายเคยส่งให้เจ้าของตลาดทุกเดือนที่คาดว่าผู้ตายใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอวได้หายไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุและมองเห็นหน้าบ้านของผู้ตายชัดเจนได้พบว่าผู้ตายได้เดินเข้าไปในบ้านในช่วงบ่ายหลังจากนั้นไม่พบเห็นใครเดินเข้าไปในบ้านของผู้ตายแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามพยานที่อยู่ข้างบ้านผู้ตาย ได้ทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยมานั่งบ่นให้ฟังว่าระยะ 2-3 เดือนหลังมานี้ผู้ตายเก็บเงินค่าเช่าที่ในตลาดไม่ค่อยได้ตามยอด และถูกเจ้าของตลาดต่อว่าจนเกิดอาการน้อยใจและยังบอกว่าจะลาออกหลังจากส่งเงินที่เก็บค่าเช่างวดนี้ ซึ่งคาดว่าน่ามาระยะหลัง ๆ ผู้ตายอาจจะเก็บเงินค่าเช่าให้เจ้าของตลาดไม่ได้ตายยอดของผู้เช่า จึงถูกเจ้าของตลาดต่อว่าอย่างรุนแรง และในเดือนนี้ก็เช่นกันผู้ตายน่าจะเกรงว่าจะถูกเจ้าของตลาดต่อว่าอีก จึงเกิดอาการเครียดใช้สายสัญญาณอากาศโทรทัศน์เก่าที่อยู่ในบ้านผูกคอตัวเองเสียชีวิตแต่สายสัญญาณรับน้ำหนักไม่ไหวจึงขาดลงมาทำให้ร่างของผู้ตายคว่ำหน้าลงมาและหน้าผากกระแทกกับพื้นจนแตกเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนเงินที่ผู้ตายเก็บค่าเช่ามาได้จำนวน 2 แสนตามคำกล่าวอ้างนั้นยังไม่มีพยานยืนยันว่าผู้ตายเก็บมาได้หรือเปล่า หรือมีเงินจำนวนดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
