เกิดเหตุไฟไหม้บ้านสองตายายที่อาศัยมาเกือบทั้งชีวิต ทรัพย์สินที่สะสมไว้ถูกไฟเผาวอด เหตุเกิดภายในชุมชนหลังหมู่บ้านกรีนวันเล่ย์ หมู่ที่ 3 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนหลังหมู่บ้านกรีนวันเล่ย์ หมู่ที่ 3 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.บางโฉลงและเทศบาลใกล้เคียงจำนวน 5 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนทางห่างจากถนนใหญ่และมีเพียงถนนปูนกว่าประมาณ 1 เมตรใช้สำหรับสัญจรไปมารถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปถึงที่เกิดเหตุได้ ต้องลากสายดับเพลิงเข้าไปกว่ากว่า 1 กิโลเมตรพร้อมเครื่องหาบหามเข้าไป ซึ่งภายในบ้านเรือนปลูกสร้างติดกันอยู่หลายสิบหลัง ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านหลังที่ 4 ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ได้พบชาวบ้านกำลังช่วยกันลากสายยางน้ำและใช้ถังตักน้ำมาสาดสกัดเพลิงแต่ไม่เป็นผลเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าไฟได้ไหม้เสียหายวอดจนหมดทั้งหลัง
จากการสอบถาม นาย ประเสริฐ เขียวศาต อายุ 77 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ขณะที่ตนเองกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านชั้นล่าง ได้มีควันไฟพวยพุ่งเข้ามาในบ้านจำนวนมาก ตอนแรกคิดว่าไฟไหม้ป่าหญ้าหลังบ้านและได้ยินเสียงเพื่อนบ้านตะโกนบอกไฟไหม้บ้านจึงออกมาดูพบว่าต้นเพลิงลุกไหม้อยู่มุมด้านหลังที่ชั้นสองของบ้านตน ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็วตนและชาวบ้านจึงได้ช่วยกันลากสายยางและเอาถังเคมีไปฉีดแต่ก็ไม่สามารถควบคุม ได้เนื่องจากเป็นบ้านไม้ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงรีบแจ้งดับเพลิงแต่กว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึงที่เกิดเหตุก็ลุกไหม้เกือบหมดหลังแล้ว เนื่องจากรถดับเพลิงไม่สามารถเข้ามาถึงและเป็นชุมชนที่อยู่ห่างไกลจากถนนสายหลัก ทำให้บ้านที่ตนสร้างและอาศัยมาทั้งชีวิตรวมถึงทรัพย์สินข้าวของเครื่องใช้ที่สะสมมาถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากกระแสฟ้าลัดวงจร เนื่องจากชุมชนแห่งนี้ปลูกสร้างมานานหลายสิบปีและไม่มีการเปลี่ยนสายไฟ จึงทำให้สายเกิดการชำรุดและเกิดไฟลุกไหม้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
