นายชนะ หงวนงามศรี คณะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษ อบจ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางตรวจสอบบริษัท ซิงลี่ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอคลองด่าน อีกครั้งหลังจากได้สั่งปิดโรงงาน สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ได้รับแจ้งว่าได้มีการลักลอบขนย้ายขยะอีเลคทรอนิกส์ออกมาจากบริษัทดังกล่าว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 สิงหาคม 2561 นายชนะ หงวนงามศรี คณะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษ อบจ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุสาหกรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. และฝ่ายปกครอง อำเภอบางบ่อ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในบริษัท ซิงลี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 418 ถนนบ้านสีล้ง –บางพลีน้อย หมู่ 1 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานโม่บดย่อยพลาสติก และคัดแยกชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ที่มีการลักลอบนำเข้าขยะอิเลคทรอนิกส์ มาเก็บเพื่อทำการคัดแยกเป็นจำนวนหลายพันตัน และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ที่ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ได้สั่งระงับการดำเนินกิจการและอายัดขยะอิเลคทรอนิกส์ ที่ตรวจพบอยู่ภายในโรงงานดังกล่าวเอาไว้ ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ฝาฝืนพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และทำการคล้องโซ่ล๊อกกุญแจประตูทางเข้าออกโรงงานดังกล่าวเอาไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายเป็นผู้ถือดอกกุญแจไขประตูทางเข้าโรงงานดังกล่าวเอาไว้ ผลการตรวจสอบพบว่าแม่กุญแจที่คล้องล๊อกโว่เอาไว้ถูกตัดด้วยคีมตัดเหล็ก จนตัวล๊อกขาดทั้งสองข้าง เข้าไปตรวจสอบภายในภายในโกดังที่เก็บขยะอิเลคทรอนิกส์ที่ทำการบดย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บรรจุใส่ถุงบิ๊กแบล๊คขนาดใหญ่เอาไว้ได้หายไปนับร้อยถุง และพบว่ามีรถโฟลคลิฟที่อายัดไว้ซึ่งเก็บอยู่ในอาคารด้านหลังได้ถูกนำออกมาต่อตรงกุญแจสตาร์ทนำออกมาใช้งานและจอดอยู่ภายในโกดังจำนวน 2 คัน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือในการต่อตรงสายไฟอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกวางทิ้งอยู่ภายในโกดัง
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - เคาะแล้ว! 4-8 พ.ย.นี้ เปิดรับสมัครชิงนายก อบจ.เพชรบูรณ์ วันหย่อนบัตร15ธ.ค.67
- ปราจีนบุรี คุณยายวัย 86 ปี หลง ๆ ลืม ๆ อยากกลับบ้านที่ จ.ชลบุรี
- อบจ.ลำปาง จัดงาน "ป๋าเวณียี่เป็งละกอน"ส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นผลกระทบสิ่งแวดล้อม หลังเตรียมตั้งนิคมอุตสาหกรรม 1 พันไร่ รองรับพื้นที่ EEC
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ วิ่งออกจากบริษัทดังกล่าวไปจำนวน 5 คันซึ่งด้านท้ายพ่วงของรถบรรทุกพ่วงทุกคันได้บรรทุกถุงบิ๊กแบล๊คขนาดใหญ่เต็มท้ายพ่วงคันละหลายสิบถุง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน สมุทรปราการ เจ้าของพื้นที่เข้าสกัดจับกุมรถบรรทุกพ่วงดังกล่าวได้จำนวน 2 คัน ตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ในถุงบิ๊กแบล็คที่อยู่บนท้ายพ่วงพบว่าเป็นเศษพลาสติกที่ถูกคัดแยกออกมาจากขยะอิเลคทรอนิกส์ อยู่ภายในถุงบิ๊กแบล๊คดังกล่าวที่อยู่บนท้ายพ่วง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นทรัพย์สินที่ถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากบริษัทดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คันมาจอดไว้ที่โรงพัก สภ.คลองด่าน เพื่อรอการตรวจสอบ
จากการสอบสวนโชว์เฟอร์ขับรถบรรทุกพ่วงทั้งสองคัน ได้ให้การว่าตนได้รับการว่าจ้างให้มาบรรทุกสินค้าซึ่งไม่ทราบว่าภายในเป็นอะไร ซึ่งมีคนใช้รถโฟล๊คลิฟยกออกมาจากภายในบริษัท ซิงลี่ จำกัด ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าที่บริษัทดังกล่าวถูกอายัดทรัพย์สินทั้งหมดเอาไว้ หลังจากที่ยกสินค้าขึ้นรถทั้งหมด ขณะที่ตนขับรถออกมาทางปากซอยเพื่อจะออกถนนสุขุมวิท เพื่อนำสินค้าดังกล่าวไปส่งที่ย่านบางประกง แต่ระหว่างที่จะออกปากทางถุงบิ๊กแบล๊คที่บรรจุสินค้าและบรรทุกมาด้านท้ายรถของตนได้เกิดตกจากรถลงมาที่พื้นถนน จังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมาพบจึงถูกจับกุมดังกล่าว ตนยืนยันว่าเป็นรถที่ถูกว่าจ้างให้มาบรรทุกสินค้าเท่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางโรงงานแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำโชว์เฟอร์ที่ขับรถบรรทุกพ่วงทั้งสองไว้เป็นพยาน เพื่อสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ว่าจ้าง มาดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ของทางราชการ โดยทำลายสิ่งกีดขวาง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: