เกิดเหตุแก๊สโรงแรมย่านบางบ่อ เกิดระเบิด ห้องอาหารและล็อบบี้ ฝ้าเพดานพังถล่ม กระจกแตกกระจาย มีพนักงานที่มาดูแลโรงแรมได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 10 มีนาคม 2563 ร.ต.อ.ภาราดร เพ็งคต รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางบ่อ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุ แก๊สระเบิด ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในซอย นวมินทร์ 4 ม.7 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณัฐ วงษ์กล้าหาญ ผกก.และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รถดับเพลิงจาก อบต.บางบ่อ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 8 ชั้น ซึ่งเปิดเป็นโรงแรมแต่ปิดกิจการไปแล้ว ได้พบว่าที่บริเวณชั้นล่าง ซึ่งเป็นส่วนของห้องอาหารและล็อบบี้ ฝ้าเพดานบริเวณชั้น 1 ได้พังถล่มลงมากระจกด้านข้างแตกและหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายวุฒิชัย สุขแสงจันทร์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพนักงานที่มาดูแลโรงแรมดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อมือฉีกขาด เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัว ส่งโรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์
จากการสอบสวนทราบว่าโรงแรมดังกล่าว ได้หยุดให้บริการมาแล้วนานกว่า 2 เดือน เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้ในอดีตเคยลูกค้าที่เป็นทัวร์จีน หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัส โควิค 19 ในประเทศจีน ทำให้นักท่องเที่ยวทัวร์จีนยกเลิกการเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ไม่มีลูกค้าเข้าพัก ทางโรงแรมจึงต้องหยุดให้บริการ แต่ยังมีพนักงานสลับกันมาเฝ้าวันละ 2 คน ขณะเกิดเหตุผู้บาดเจ็บและเพื่อนร่วมงานจำนวน 2 คนกำลังนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ และได้กลิ่นคล้ายมีแก๊สรั่ว จึงเดินพากันเดินตามหาว่ากลิ่นแก๊สมาจากไหน ระหว่างที่กำลังเดินหากันอยู่นั้นได้เกิดการระเบิดขึ้นทำให้แผ่นฝ้าเพดานและสิ่งของถูกแรงอัดจนตกลงมา ทับที่ลำตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่า หลังจากที่โรงแรมแห่งนี้ปิดกิจการลงแต่อาจลืมปิดวาวล์ถังแก๊สหุงต้มในห้องครัวของโรงแรม และท่อส่งแก๊สอาจชำรุด จึงทำให้แก็สเกิดเกิดการรั้วไหลสะสมอยู่ในห้องครัว ในจังหวะที่ผู้บาดเจ็บเดินเข้าไปเปิดสวิทช์ไฟเพื่อตรวจสอบที่มาของกลิ่นแก็สจนทำให้เกิดประกายไฟ แก็สที่ถูกสะสมไว้เกิดระเบิดขึ้น จนทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหายและฝ้าเพดานตกลงมาทับผู้บาดเจ็บ หรือในขณะที่ผู้บาดเจ็บและเพื่อนร่วมงานกำลังเดินหาที่มาของกลิ่นแก๊สอาจจะสูบบุหรี่ จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: