นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส รุดเดินทางตรวจการใช้ Application มาตรการติดตามผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้เดินทางมา ตรวจดูApplication ของ AOT Airports ซึ่งเป็นมาตรการ การติดตามผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวทุกคน ทุกไฟล์บินที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งชาวไทยที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยง ร่วมทั้งคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นเชื่อมั่นให้กับประชาชนชาวไทย และชาวต่างชาติ เกี่ยวกับการติดตามและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยมีนายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฎิบัติการร่วมให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชนมาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารในจุดต่าง ๆ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ได้กล่าวว่า กระทรวงดีอีเอส และสำนักงาน กสทช. พร้อมด้วย กองบังคับการตรวจตนเข้าเมือง กรมควบคุมโรค และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 เครือข่าย พร้อมด้วยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริษัท มหาชนจำกัด การท่าอากาศยานไทย ได้ประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับมาตรดำเนินการ แนวทางการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมาตรการที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันที่จะดำเนินการ โดยให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศทุกคนทุกไฟล์บินที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งประชาชนชาวไทยที่เดินทางกลับจากการเดินทางท่องเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยง และคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อลงจากเครื่องบิน ถึงจุดตรวจของกรมควบคุมโรค จะต้องทำการดาว์นโหลดแอปพลิเคชัน AoT Airport จาก Google Store หรือ Apple Store โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะทำงาน เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วน และยอมรับเงื่อนไขให้ใช้ข้อมูลดังกล่าวกรณีจำเป็นเมื่อเกิดสถานการณ์เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล จากนั้นนำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวไปแสดงที่ ตม. เพื่อผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเข้าประเทศไทยได้ และแอปพลิเคชั่นดังกล่าวจะทำงาน หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน และยินยอมรับเงื่อนไขข้างต้นแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้เป็นเวลา 14 วัน ถ้ามีเหตุการณ์เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล ทางกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่าง กรณี เจ้าของข้อมูลโดยสารเครื่องบินมาประเทศไทย ปรากฎว่ามีผู้โดยสารที่โดยสารเครื่องบินลำเดียวกัน ตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมควบคุมโรคก็สามารถ ใช้หมายเลขโทรศัพท์จากฐานข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น ติดต่อเจ้าของข้อมูล และตรวจสอบเส้นทางการเดินทางภายใน 14 วันที่เขาไป เพื่อตรวจสอบเส้นทาง เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรค หรือหาเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงเพื่อเฝ้าสังเกตอาการได้ หากไม่มีเหตุการณ์ เมื่อครบ 14 วัน ข้อมูลจะถูกลบทั้งหมด
สำหรับ แอปพลิเคชั่นของ AOT Airports เป็นแอปพลิเคชัน ที่ใช้เวลาในการกรอกข้อมูลไม่เกิน 2 นาที ซึ่งจะมีการกรอกข้อมูลเฉพาะ ชื่อ-นามสกุล Passport ID หมายเลขโทรศัพท์ และ E-mail Address เท่านั้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็สามารถติดตามได้ มาตรการดังกล่าวผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ร่วมกับสำนักงาน กสทช. จัดให้มีการจำหน่ายซิมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ณ จุดตรวจของกรมการควบคุมโรค ในราคา 49 บาท ใช้งานได้ 14 วัน
ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนคนไทย คนที่เดินทางกลับเข้าประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ให้มีความมั่นใจ ว่าประเทศไทยสามารถติดตามผู้ที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลเพียงพอในการดำเนินการ และวางแผนการดำเนินการต่าง ๆ เผื่อสกัดโรคจากเชื้อ ไวรัส โควิด-19 ได้
