ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีพนักงานทำความสะอาดเป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น ที่บริเวณด้านหน้าชานชลา ชั้น 2 ประตู 5 อาคารผู้โดยสาร จากการตรวจพบว่ามีไข้สูง
ตามที่มีการเผยแพร่ภาพพนักงานจัดจ้างทำความสะอาดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นอนล้มลงที่หน้าอาคารผู้โดยสาร และก่อให้เกิดกระแสข่าวลือว่าพนักงานคนดังกล่าวมีไข้ขึ้นสูงติดเชื้อไวรัส Covid -19 ตามที่มีข่าวนำเสนอตามสื่อต่าง ๆ นั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ที่ 18 มีนาคม 2563 นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ออกมาชี้แจ้งว่า ตามข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อต่าง ๆ นั้น หลังเกิดเหตุ ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 เมื่อเวลา 13.16 น. โดยศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ที่ประจำจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิบริเวณด้านหน้าชานชลา ชั้น 2 ประตู 5 ว่ามีพนักงานทำความสะอาดเป็นลม ทราบภายหลังว่าเป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัท เอ แอนด์ พี เมนทิแนนซ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายแพทย์ได้เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อได้รับแจ้งเหตุ และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยทันที ก่อนส่งต่อไปที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส Covid -19
ข่าวน่าสนใจ:
จากการตรวจเช็คอาการในเบื้องต้นพบว่าพนักงานคนดังกล่าว มีความดันโลหิตต่ำ มีไข้สูง 38.6 องศาเซลเซียส และมีอาการหายใจลำบาก ไอ แต่สามารถพูดคุยรู้เรื่อง ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของอาการป่วยดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากยังไม่ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวป่วยด้วยสาเหตุใด และขอให้รอฟังผลที่ชัดเจนก่อน
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขอยืนยันว่า ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรอง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส Covid- 19 โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการยกระดับการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิผู้ที่จะผ่านเข้าไปในอาคารผู้โดยสารทุกคน รวมทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ให้ความสำคัญการรักษาความสะอาดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และเช็ดทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการสัมผัสร่วมกันในทุกพื้นที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid- 19
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: