ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงข่าวจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารในการ Download Application AOT Airport เพื่อบันทึกข้อมูลในใบ ต.8 ช่วยในการติดตามตัว
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 มีนาคม .2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID-19) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้แถลงข่าว การจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารในการ Download Application AOT Airport เพื่อบันทึกข้อมูลในใบ ต.8 ช่วยในการติดตามตัว พร้อมจัดระเบียบพื้นที่ให้บริการสนับสนุนการเว้นระยะห่างทางสังคม ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19
ข่าวน่าสนใจ:
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยในปัจจุบัน มียอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคดังกล่าว โดยให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากท้องที่นอกราชอาณาจักร ต้องดาวน์โหลดและลงทะเบียน “AOT Airports” Application และต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ต.8 ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้จัดพื้นที่ไว้จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1. บริเวณหน้า Gate D8 2. บริเวณตรงข้ามทางขึ้น Bus Gate D5 และ 3. บริเวณ ชั้น 2 ตรงจุดตัดฝั่งตะวันออก
โดยได้จัดให้มีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในการ Download Application ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะมีความกว้างขวางกว่าเดิม ช่วยลดความคับคั่งและความหนาแน่นในการเข้าคิวก่อนเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง และถือเป็นการร่วมสนับสนุนการลดความเสี่ยงโดยเว้นระยะห่างทางสังคม
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศเรื่องเเนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย โดยประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากทุกประเทศทั่วโลกต้องถูกคัดกรองอย่างเข้มข้นตั้งแต่สถานีต้นทาง และเมื่อถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะต้องถูกคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิอย่างละเอียด ซึ่งทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการจัดเตรียมห้อง Holdroom ของ Gate D3 และ D4 ไว้เป็นพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง โดยต้องถูกส่งตัวกลับสถานีต้นทางเนื่องจากมีเอกสารไม่ครบถ้วน สำหรับผู้โดยสารชาวไทยหากมีเอกสารไม่ครบจะถูก กักตัวไว้ก่อนเช่นกัน จนกว่าจะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกใบรับรองให้ครบถ้วนจึงจะสามารถเข้าเมืองได้
ทั้งนี้ ห้อง Holdroom ดังกล่าวจะถูกแบ่งเป็นห้องของผู้โดยสารชาวไทยและชาวต่างชาติแยกกัน โดย ห้อง Holdroom ของ Gate D3 สามารถรองรับผู้โดยสาร 88 รายและ ห้อง Holdroom ของ Gate D4 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ราย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินงานตามนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนการจัดวางเก้าอี้พักคอยผู้โดยสารตามจุดต่าง ๆ ภายในอาคารผู้โดยสาร โดยได้ติดป้ายสัญลักษณ์ให้มีการเว้นระยะห่างที่บนเก้าอี้
นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดจุดยืนภายในลิฟท์ รวมทั้งกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารภายในอาคารผู้โดยสาร ปรับเปลี่ยนการจัดวางเก้าอี้ภายในร้านอาหารอาคารผู้โดยสาร และห้อง Canteen ที่ให้บริการกับพนักงาน ลูกจ้างและผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อร่วมสนับสนุนการลดความเสี่ยงโดยเว้นระยะห่างทางสังคม ให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 เช่นกัน
ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเขื้อไวรัส COVID-19 โดยได้ทำการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ด้วยเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายระบบอินฟราเรด รวมถึงมีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่จะผ่านเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสารทุกคน อีกทั้งให้ความสำคัญในการใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด โดยได้มีการเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดทุกพื้นที่ ทุกจุดต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยาน ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออกแบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นการใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ สูตรของสถาบันบำราศนราดูร เช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ บันไดเลื่อน รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง สายพานตรวจค้น เป็นต้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: