ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกณฑ์เจ้าหน้าที่กว่าร้อยนาย สนธิกำลังตั้งแนวรับผู้โดยสารขาเข้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ไปเรียนในอเมริกาบินกลับไทยอีกกว่า 200 คน ส่งกักตัว 14 วันในสถานที่ที่ทางราชการกำหนดไว้
หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ที่ 3 เมษายน 2563 ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เนื่องจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กว่า 100 คน ที่จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้าสู่กระบวนการกักตัวในสถานที่ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้ แต่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และเกิดโต้เถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยผู้โดยสารอ้างว่าทำถูกต้องกระบวนการทุกอย่าง และไม่มีการบอกล่วงหน้า และทุกคนผ่านขันตอนของเจ้าหน้าที่มาทั้งหมดและมีใบรับรองแพทย์ เราจึงได้เดินทางกลับมา ซึ่งก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และเกิดความตึงเครียดขึ้น โดยกลุ่มผู้โดยสาร ระบุว่า ไม่ทราบประกาศเรื่องของการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทุกเที่ยวบิน ล่าสุด เฟซบุ๊ก ประวีณมัย บ่ายคล้อย ได้อัพเดทข้อมูลว่า เวลา 21.10 น. เจ้าหน้าที่ปล่อยผู้โดยสารกลับบ้านแล้วแต่ต้องทำประวัติหากมีไข้ ต้องเข้ารับการกักตัวทันที
ข่าวน่าสนใจ:
ภายหลังความวุ่นวายจบลงก็ยังมีเที่ยวบิน ที่บินจากอเมริกาและแวะที่เกาหลีก่อนจะเดินทางมาถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตามรายงานข่าวคาดมีไม่ต่ำกว่า 200 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิต้องระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กว่า 100 นาย สนธิกำลังตั้งแนวรับผู้โดยสารขาเข้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ไปเรียนในอเมริกา ให้เดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารผ่านกำแพงของเจ้าหน้าที่ทั้งสองด้านเดินออกประตู 10 เพื่อขึ้นรถบัสที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมไว้ประมาณ 5 คัน เพื่อนำนักศึกษากลุ่มนี้ไปกักตัว 14 วันในสถานที่ที่ทางราชการกำหนดไว้
โดยมีผู้ปกครองบางรายมารอรับบุตรของตนเองเพื่อกลับไปกักตัวที่บ้านพักซึ่งทางบ้านได้จัดทำห้องแยกและจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคเข้ามาดูแลบุตรของตนเอง แต่ผู้ปกครองที่มารอรับบุตรหลานก็ต้องพากันผิดหวังโดยทางเจ้าหน้าที่ได้ต้อนขึ้นรถบัสไปยังจุดที่กำหนดไว้ เมื่อสอบถามว่าทราบหรือไม่ว่าจะต้องมีการกักตัวบุตรสาว ผู้ปกครองออกมาระบุว่าตนเองและลูกสาวไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนแต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: