โชว์เฟอร์บรรทุกพ่วงหนีตาย หวิดถูกย่างสดหลังขับรถไปบรรทุกเหล็ก จะไปส่งลูกค้า ได้ยินเสียระเบิด และมีควันพวยพุ่งออกมา ด้วยความตกใจจึงรีบจอดรถ แล้วออกจากรถอย่างเร็ว ก่อนพบว่าไฟกำลังลุกไหม้สายหัวฉีดน้ำมันเข้าเครื่องอย่างรุนแรง ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วจนไหม้หัวเก๋งทั้งหมด เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2561 ร.ต.อ.ชัชพงษ์ ขาวสะอาด รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บริเวณถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 7 ขาออกมุ่งหน้าบางพลี ต.เทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.เทพารักษ์ จำนวน 2 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว หัวลากทะเบียน 62-3647 กรุงเทพมหานคร ห่างพ่วงทะเบียน 63-4847 กรุงเทพมหานคร ที่บรรทุกเหล็กเส้นมาเต็มคันรถ จอดด้านอยู่เลนซ้าย เพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณหัวเก๋งของรถพ่วงคันดังกล่าวโดยเปลวเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นมาจากด้านล่าง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงจึงสงบ พบว่าไฟได้ลุกไหม้หัวเก๋งได้รับความเสียหายทั้งหมด
จากการสอบถามนายพรานเพชร พิมหอม อายุ 28 ปี คนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถออกมาจากบริษัท เอสเจเอส เซอร์วิส จำกัด ตั้งอยู่ย่านถนนศรีนครินทร์ อ.เมือง สมุทรปราการ ไปรับเหล็กเส้น ที่บริษัท ต.วรคุณ ถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 7 เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าย่านนิคมบางปู หลังจากขึ้นเหล็กเสร็จ ตนได้ขับรถออกมาได้ไม่ถึง 1 กิโลเมตร จู่ ๆ ก็ได้มีเสียงระเบิด ดังขึ้นมาจากใต้ห้องเครื่อง และมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นมา ด้วยความตกใจตนจึงได้รีบนำรถเข้าจอด ข้างทางและเปิดประตูลงมาดู พบเปลวเพลิงกำลังไหม้บริเวณสายหัวฉีดน้ำมันเข้าเครื่องอย่างรุนแรง ตนจึงตระโกนของความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง พร้อมโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้พยายามนำถังดับเพลิงมาช่วยกันดับ แต่ไม่เป็นผลเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วท่วมหัวเก๋ง ก่อนรถดับเพลิงจะมาถึงและฉีดน้ำสกัดเพลิงเอาไว้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ระหว่างที่รถพ่วงคันดังกล่าวขับมาตัวเครื่องยนต์ได้เกิดความร้อนสะสมประกอบสายหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอาจชำรุดทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงรั้วออกมา จนกระทั่งความร้อนที่สะสมกับตัวเครื่องยนต์ถึงจุดติดไฟจึงทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: