พ.ต.อ. พีรศักดิ์ รอดบน ผกก.สภ.บางพลี ใช้เทคโนโลยีสุ่มตรวจผู้ต้องสงสัยโควิด ขณะที่พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ย่องเงียบเดินทางมาตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ที่ด่านตรวจและสกัดเคอร์ฟิวบนถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 14 เมษายน 2563 ที่จุดตรวจและสกัดเคอร์ฟิวบนถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ. พีรศักดิ์ รอดบน ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ นำทีมฝ่ายสืบสวนเฉพาะกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง บูรราการกำลังตั้งจุดตรวจเคอร์ฟิวตรวจจับผู้ฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยนำเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาร่วมตรวจหาผู้ที่ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายต้องระวังการติดเชื้อโควิด 19 มาใช้
ข่าวน่าสนใจ:
- ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา>ชาวพุทธ+ทพ.48 ร่วมทอดผ้าป่า
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- 33 ปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 13-22 ธันวาคม 67
พ.ต.อ. พีรศักดิ์ รอดบน ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สภ.บางพลี ได้ตั้งทีมไอทีเฉพาะกิจขึ้นมานำเอาเทคโนโลยีเครื่องตรวจแสกนหาบุคคลที่เข้าข่ายเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด มาใช้ โดยจะใช้เครื่องแสกนบัตรประชาชนที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ที่ลงแอฟฟิเคชั่นไว้ตรวจสอบประวัติของบุคคลกลุ่มเสี่ยงตามของมูลของศูนย์ ศบค. โดยนำบัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่องสแกน ผ่านแอฟพิเคชั่น ก็จะแสดงผลให้รู้ทันทีว่าบุคคลนี้เป็นบุคคลในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ และยังสามารถตรวจสอบบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีต้องกักกันโรค 14 วันได้อีกด้วยหากพบว่ายังไม่พ้นกำหนดกักกันโรคและออกมาใช้ชีวิตตามปกติก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งสามารถทำให้การคัดกรองนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นยังตั้งทีมเฉพาะกิจฝ่ายสืบสวนใช้เทคโนโลยีบังคับโดรนขึ้นบินเหนือจุดตรวจเพื่อป้องกันบุคคลที่เจอด่านแล้วหลบหนี นอกจากจะเป็นการคัดกรองผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวแล้วยังเป็นการป้องปรามอาชญากรรม และยังตรวจสอบหมายจับแบบออนไลน์ได้อีกด้วย
ขณะที่ พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ย่องเงียบเดินทางมาตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เข้ามาที่จุดตรวจเพื่อดูการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา และให้กำลังใจพร้อมกำชับการปฎิบัติให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเรื่องอาชญากรรมในพื้นที่ ที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับภาพรวมของตำรวจภูธรภาค 1 นั้นตั้งแต่มีการประกาศเคอร์ฟิวพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนและกระทำผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ประมาณ 1,600 ราย และปัจจุบันลดลงเป็นอย่างมากเนื่องจากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ส่วนตัวเลขของผู้ติดเชื้อในภาพรวมของภาค 1นั้น พบว่ามีประมาณสองร้อยกว่ารายแต่ปัจจุบันลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนให้ความร่วมมืออยู่ในบ้านและเกรงกลัวความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หากตรวจพบว่าไม่มีเหตุเร่งด่วนจำเป็นหรือไม่เข้าข่ายยกเว้นก็จะต้องถูกดำเนินคดี ไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการตำรวจด้วยกัน หากพบเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากปล่อยปะละเลยก็จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: