ตำรวจกองปราบปราม รวบ เสธมุ่ย อดีต สจ. ผู้จ้างวานซุ้มมือปืนเมืองเพชร กระหน่ำยิงเจ้าของธุรกิจโซลาร์เซลล์ แฉวางแผนอำพราง จะให้เป็นการขับรถปาดหน้า ทางด้านเจ้าหน้าที่จะทำการส่งศาลในวันพรุ้งนี้ เพื่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากกรณี ดร.อัครนันท์ มงคลชลสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ประธานบริษัท ฟีนิกซ์ เวิลด์ เอนเนอจี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการระบบโซลาร์เซลล์ แบบครบวงจร ถูกมือปืนขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน กจ 9641 ไม่ทราบหมวดจังหวัด ใช้อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.กระหน่ำยิง เสียชีวิต ที่บริเวณถนนหน้าทางเข้าหมู่บ้านลัลลี่วิลล์ หมู่ 5 ซอยมังกรนาคดี ถนนเทพารักษ์ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2560 ของปีที่ผ่านมา โดยมุ่งประเด็นการสั่งหารเรื่องทะเลาะซึ่งหน้า และ หักปมธุรกิจ ที่ผู้ตามทำอยู่ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาเมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ที่ 13 กันยายน 2561 ตำรวจชุดสืบสวน กองปราบปราม ได้นำกำลังร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหามีส่วนพัวพันคดีสังหาร ดร.อัครนันท์ มงคลชลสวัสดิ์ ได้แล้ว 4 รายายแรกจับกุม นายวิฑูรย์ กรีธาธร อายุ 38 ปี หรือ สจ.เก่ง อดีต สจ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.268/2561 ลงวันที่ 6 เม.ย.2561 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 157/85 หมู่บ้านทองธัชการซอย 3 ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่าง ๆ ไว้ได้จำนวน 5 กระบอก ผู้ต้องหารายที่ 2 พ.อ.สมศักดิ์ มุ่ยแฟง อายุ 62 ปี หรือ เสธ.มุ่ย นายทหารนอกราชการ จับกุมได้บริเวณหน้าอาคารไอเฮาส์ ลากูนาการ์เดนท์ เอฟ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้จ้างวาน ผู้ต้องหารายที่ 3 นายโชติทิวัตถ จิรภัทรพุฒิธนา อายุ 44 ปี เจ้าของบริษัท ฟ้าชัย วิศวกรรม จํากัด และรายที่ 4 นายวราวุฒิ ผาสุข อายุ 43 ปี จับกุมได้ที่บริเวณ ริมถนนบริภัทร ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี และจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฎิเสธ
ขณะที่จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า กลุ่มคนร้ายวางแผนอำพรางคดีทำให้เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท ด้วยการขับรถเฉี่ยวชนแล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่แท้จริงมาจากปมความขัดแย้งภายในบริษัทพลังงานโซลาร์เซลล์ ที่ผู้ตายดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอยู่ เนื่องจากผู้ตายต้องการแยกตัวออกมาจากบริษัท ทำให้ผู้ใช้จ้างวานซึ่งเป็นหุ้นส่วนในบริษัท เกิดปัญหาขาดความน่าเชื่อถือจากลูกค้า เนื่องจากผู้ตายมีความเชี่ยวชาญระบบพลังงานโซลาร์เซลล์ หากแยกตัวออกไปบริษัทจะทำธุรกิจต่อไปไม่ได้ จึงวางแผนสังหารโดยจ้างวานมือปืนซุ้มเมืองเพชรบุรี เข้ามารับงานในราคา 4 แสนบาท สำหรับซุ้มมือปืนที่ลงมือสังหารโหดในครั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างหลบหนี ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 พร้อมของกลางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พื้นที่เกิดเหตุ ทำการสอบสวนต่อ
ต่อมาในเวลา 15.00 น วันที่ 13 กันยายน 2561 พลตำรวจตรี ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ตั้งชุดพนักงานสอบสวนจำนวน 4 คนขึ้นมาทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 และลงมาควบคุมการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยตัวเอง พร้อมกล่าวว่า สำหรับนี้ แบ่งผู้ต้องหาเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก คือ นายวราวุฒิ และ นายวิฑูรย หรือ สจ.เก่ง อดีต สจ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดย นายวิฑูรย อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน ตนได้เดินทางมาดูเป้าหมาย ที่สนามกอร์ฟแห่งหนึ่งย่านถนนศรีนครินทร์ กับนายโจ และนายเบียร์ ทีมสังหาร แต่ไม่ทราบว่า จะเป็นการมาดูเป้าหมายเพื่อลงมือสังหาร ส่วนนายวุฒิ ให้การว่า ไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์เป็นเพียงคนเฝ้าบ้านให้กับหนึ่งในผู้ร่วมลงมือเท่านั้น
ส่วนผู้ต้องหาชุดที่ 2 ประกอบด้วยนายโชติทิวัตถ เจ้าของบริษัท ฟ้าชัย วิศวกรรม จํากัด และ พ.อ.สมศักดิ์ หรือเสธมุ่ย ที่ปรึกษาบริษัท ซึ่งเป็นชุดจ้างวาน ในชั้นสอบสวนทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวาหา โดยไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน จะให้การในชั้นศาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้ตามคดีนี้มาโดยตลอด เราจึงมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถเชื่อมโยงไปหาผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ส่วนประเด็นการก่อเหตุนั้น ทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายซึ่งเคยเป็นหุ่นส่วนกับ บริษัท ผู้จ้างวาน ก่อนจะแยกออกมาเปิด บริษัท เป็นของตัวเองซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้า จึงทำให้บริษัทเดิม เสียผลประโยชน์ต้องสูญเสียลูกค้าชาวต่างชาติและรายได้อันมหาศาล ผู้จ้างวานจึงมีความโกรธแค้น ผู้ตาย จึงไปว่าจ้างทีมมือปืนจาก จังหวัดเพชรบุรี มาลงมือก่อเหตุ ส่วนนายเบียร์ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีนั้น เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้เร็ว ๆ นี้
ส่วนกรณีการประกันตัวนั้นต้องดูว่าทางผู้ต้องหามีพฤติกรรมจะหลบหนีหรือไม่ และเชื่อถือนายประกันได้หรือไม่ และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ซึ่งต้องรอให้พนักงานสอบสวนเสนอขึ้นมาเพื่อพิจารณาต่อไป
