เกิดเหตุระทึกเปลวไฟปริศนาพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินที่ลานดินวางเปล่า ใกล้ชุมชน ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานที่ก่อสร้างอาคารโกดัง ภายในซอย 3 ไทยประกัน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยิ่งฉีดน้ำไฟยิ่งลุก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากใต้ดินที่ลานดินวางเปล่า ใกล้ชุมชน ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานที่ก่อสร้างอาคารโกดัง ภายในซอย 3 ไทยประกัน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลใกล้เคียงเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุได้พบเปลวเพลิงที่พวยพุงออกมาจากใต้พื้นดิน เปลวไฟคล้ายเปลวไฟเตาหลอมโลหะเป็นสีส้ม จำนวนหลายจุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้น้ำฉีดเข้าไปที่เปลวเพลิงกลับพบว่าเปลวกลับลุกโหมขึ้นมาอย่างรุนแรงและลูกไฟวิ่งตามสายน้ำย้อนขึ้นไปหาคนฉีด และมีการระเบิดจากใต้ดินดังขึ้นเป็นช่วง ๆ บางจังหวะพบว่าเกิดการระเบิดจนมีเพลิงวิ่งทวนตามสายน้ำำ เข้าใส่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอย่างรุนแรง จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยและหยุดการใช้น้ำ พร้อมเปลี่ยนมาใช้น้ำยาเคมีโฟมแทน แต่ก็ไม่เป็นผลคล้ายเป็นการเพิ่มเชื้อเพลิงเข้าไปอีก และทำให้เกิดกลุ่มควันพิษสีขาวจำนวนมากฟุ้งกระจาย ปกคลุมพื้นที่ ส่งกลิ่นเหม็นทำแสบจมูกอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงสันนิฐานว่าใต้ที่ดินสารเคมีบางชนิดถูกฝังกลบอยู่ และทำปฏิกิริยากับความร้อนของอากาศภายนอกจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเข้าไป ยิ่งให้เปลวไฟลุกโหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงหยุดการฉีดน้ำ และนำเอารถแบคโฮมาทำการตักหน้าดินออก แต่ยิ่งทำให้เปลวไฟปะทุหนักขึ้นและกระจายตัว เวลาผ่านไปกว่า 5 ช่วงโมงเปลวไฟยังลุกพวยพุ่งออกมาจากใต้ดินตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงใช้รถแบคโฮ ตักดินและทรายจากที่อื่นมาทำการโปรยปิดหน้าดินเอาไว้เพื่อให้ความร้อนคลายตัว ให้รถดับเพลิงจอดแสตนบาย อยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังการลุกลาม
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เปิดเผยว่า การดับไฟในครั้งนี้เจออุปสรรคค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำหรือน้ำยาโฟมฉีดสกัดได้ ต้องใช้รถแบคโฮมาตักหน้าดินออกที่ละน้อยและใช้น้ำฉีดเลี้ยง ตาม คาดใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ขณะเดียวกันได้อพยพคนงานและประชาชนใกล้เคียง ให้ออกห่างจากที่เกิดเหตุและให้ออกไปอยู่เหนือลม เนื่องจากพบว่ากลุ่มควันสีขาวที่พวยพุงออกมา น่าจะเป็นควันพิษอาจเป็นอันตรายได้ ส่วนสาเหตุที่ทำเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้คาดว่า น่าจะมีการลักลอบนำเอาสารเคมีบางชนิด มาฝังกลบโดยไม่ถูกวิธีจนทำให้เกิดความร้อนสะสม ผนวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมา
โดยนาย สมบูณร์ กกรัมย์ คนงานก่อสร้าง ได้เล่าว่า สถานที่แห่งนี้ได้มีการนำสารเคมีประเภทผงอลูมิเนียมเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน น้ำหนักถุงละประมาณ 15 กิโลกรัม มาทำการฝังกลบไว้ประมาณ 10 ถุง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่ามีแต่สารเคมีชนิดดังกล่าว คาดมีสารเคมีชนิดอื่นด้วยที่มีอันตรายสูงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งจะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาตรวจสอบและดำเนินการ หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายกับชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม เคราะห์ดีที่เกิดเหตุขึ้นมาก่อน หากเกิดขึ้นภายหลังจากสร้างโกดังเก็บสินค้าแล้วเสร็จ หากเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาแบบนี้จะทำให้เกิดแรงอัดมากกว่านี้และอาจเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ด้านนายก อบต.บางเสาธง หลังทราบเรื่องได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณะสุขลงพื้นที่ เร่งตรวจสอบสารเคมีชนิดดังกล่าว และหาต้นตอของผู้มักง่ายที่ลอบเอาสารเคมีมาฝังกลบบริเวณนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
