บริษัท เวเกอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลน์) จำกัด นำตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติซึ่งภายในมีหน้ากากอนามัย พร้อมระบุราคา 1 แพ็ค 10 ชิ้น 100 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าท้องตลาด มาจัดวางภายในตลาดสด ส. เสริมสุข ชุมชน วโรชา หมู่ที่ 2 ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่25 เมษายน 2563 ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาทำภารกิจ ที่ตลาดสด ส. เสริมสุข ชุมชน วโรชา หมู่ที่ 2 ตำบลบางเพรียง อำเภอ บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้พบเห็นชาวบ้านหลายคนไปยืนมุงกันอยู่ที่หน้าตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างตลาดสดดังกล่าว ซึ่งเป็นตู้หยอดเหรียญที่ใหญ่กว่าปกติ ด้วยความแปลกใจผู้สื่อข่าวจึงได้เดินเข้าไปดู ได้พบว่าตู้หยอดเหรียญดังกล่าว เป็นตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัยอัตโนมัติ ที่มีหน้าจอแสดงสินค้าเป็นหน้ากากอนามัยชนิดต่าง ๆ ทั้งชนิดผ้าและชนิดกระดาษ พร้อมระบุราคา 1 แพ็ค 10 ชิ้น 100 บาท ซึ่งเป็นของ บริษัท เวเกอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลน์) จำกัด เป็นผู้นำมาตั้ง และได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมากต่างพากันมาหยอดเหรียญซื้อหน้ากากอนามัยกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหน้ากากอนามัยกำลังเป็นที่ต้องการของชาวบ้านเป็นอย่างมากและยังจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด
จากการสอบถามนายทวี คิดถูก ผู้ดูแลตลาดสดแห่งนี้ ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อวางตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัยอัตโนมัติ และจากการสอบถามทราบว่าเป็นตู้หยอดเหรียญและเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายซึ่งทางผู้ประกอบการได้มีเอกสารใบอนุญาตมาแสดงพร้อม จึงอนุญาตให้เช่าพื้นที่วางตู้ ที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมากที่เข้ามาใช้บริการภายในตลาด การใช้งานก็ไม่ยากแถมราคาก็ถูกกว่าท้องตลาดแถมเป็นหน้ากากอนามัยอย่างหนาและมีคุณภาพ ประกอบกับขณะนี้ตามท้องตลาดยังหาซื้อค่อนข้างยาก จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ชาวบ้าน
ด้านนางสาวจิตรา ทศคำจร หนึ่งในผู้ที่มาใช้บริการตู้กดหน้ากากอัตโนมัตินี้ เปิดเผยว่า พอดีมาใช้บริการที่ร้านสะดวกซื้อและหันมาเห็นตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัย จึงมาลองใช้บริการดู ซึ่งตนและครอบครัวมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ อีกทั้งที่ผ่านมาหาซื้อไม่ได้และต้องสั่งผ่านทางออนไลน์ตกราคาชิ้นละ 20 บาท แต่พอมาเจอตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัยตู้นี้และจำหน่ายในราคาถูกกว่าเท่าตัว แถมสะดวกสบาย จึงมาใช้บริการและนำกลับไปเผื่อครอบครัวด้วย
นาย ย่าจุน ตีน ผู้บริหารบริษัท เวเกอร์ อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลน์) จำกัด ซึ่งผู้ที่คิดค้นและนำเข้าตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัยอัตโนมัติตู้นี้ ได้กล่าวผ่านล่ามแปลภาษา ว่า ตนเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยได้เกือบ 10 ปีแล้ว หลังจากปัญหามีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย ทำให้ขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างหนัก แม้กะทั่งพนักงานในบริษัทตนเองยังไม่มีใช้ หลังจากประเทศจีน ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และปลดล็อกการส่งออกหน้ากาก ทำให้ตนมีความคิดที่อยากจะช่วยเหลือคนไทยให้มีหน้ากากอนามัยทีดีมีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัย ไว้ใช้สวมใส่ เพื่อป้องกันตัวเอง จึงได้ลองศึกษาและนำเข้าตู้หยอดเหรียญหน้ากากอัตโนมัตินี้เข้ามาให้บริการต่อคนไทย โดยไม่ได้หวังกำไรมากจากการลงทุน ซึ่งต้องยอมรับว่าบริษัท ยังนำเข้าหน้ากากและตู้นี้ในราคาที่ค่อนข้างสูงเฉลี่ยแล้วชิ้นละ 8.50 บาท จึงจำเป็นต้องจำหน่ายในราคาชิ้นละ 10 บาท ซึ่งหากสินค้าลอตใหม่เข้ามาและมีราคาถูกลงก็พร้อมจะปรับลดราคาลงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ตู้นี้ถือเป็นตู้แรกที่ทางบริษัทนำเข้ามาทดลองให้บริการกับคนไทย แต่หลังจากนี้จะมีการขยายจุดวางเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นในสนามบิน สถานีรถบีทีเอส ห้างสรรพสินค้า และชุมชนต่างๆ เพื่อให้เพียงพอต่อประชาชน และให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนชาวไทย ส่วนการนำเข้ามานี้ ตนได้ทำเรื่องขออนุญาตนำเข้าและตรวจสอบด้านความสะอาดและปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว เช่นกัน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินมาตรวจสอบ ตู้หยอดเหรียญหน้ากากอนามัยอัตโนมัติตู้ดังกล่าว หลังนำหน้ากากอนามัยออกมาตรวจสอบ พร้อมระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหน้ากากชนิดนี้ค่อนข้างมีคุณภาพพอสมควร และบริษัทได้จดทะเบียนและขอนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนราคาจำหน่ายนั้นถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ทางพาณิชย์กำหนด และมีราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด พร้อมแนะนำให้ไปตั้งในแหล่งชุมชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพและราคาถูก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับชาวบ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย
