หนึ่งในแก๊งรุมกระทืบโจ๋อิสลามผิดตัวหน้าคลังสินค้าย่านบางเสาธง ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว เบื้องต้นให้การรับสารภาพ และได้พูดคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเยียวยาค่าเสียหายให้ ด้านเจ้าหน้าที่พอทราบตัวผู้ก่อเหตุรายอื่นแล้ว รอให้ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันจึงจะขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
จากกรณีที่มีเหตุกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 30 คนขับขี่รถจักรยานยนต์หลายคันไปดักรุมทำร้าย นายอิลฟรานส์ หนิโซ๊ะ อายุ 22 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ที่บริเวณทางเข้าคลังสินค้าชื่อดังย่านอำเภอบางเสาธง จังวัดสมุทรปราการ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยปมชนวนเหตุมาจากการตามมาล้างแค้นให้น้องชายที่ถูกคู่อริตามมาถีบรถจักรยานยนต์จนล้มบาดเจ็บและลงไปทำร้ายซ้ำจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะยกพวกมาเอาคืนแต่เอาคืนผิดตัว
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ชี้ยืนยันตัวตนทำให้พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ คือ นาย อารอฟาต มะหะหมัด อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 194 / 2563 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายสาหัสจนเป็นเหตุให้เจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินยี่สิบวัน และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันนี้ที่ 28 พฤษภาคม 2563 นาย อารอฟาต มะหะหมัด อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน แล้ว โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นายอารอฟาต ผู้ก่อเหตุ ได้เล่าว่า ในวันเกิดเหตุหลังจากที่นายบีลาเด็น มะหะหมัด อายุ 19 ปี น้องชายตนที่ถูกกลุ่มของนายเพชร ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้มไปฟาดกับเสาไฟฟ้าและลงมาทำร้ายร่างกายซ้ำอีกจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามที่ปรากฎในภาพวงจรปิด ตนซึ่งเป็นพี่ชายหลังทราบเรื่องตนและพรรคพวกอีกประมาณ 5-6 คน ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปดักรอคู่กรณีทางเข้าคลังสินค้าที่นายเพชร ทำงานอยู่ ซึ่งตนแรกตนก็ไปแค่ 5-6 คน แต่พอน้อง ๆ มันทราบเรื่องก็ขี่รถตามมา ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ นายอิลฟรานส์ หนิโซ๊ะ อายุ 22 ปี ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาและขี่รถจักรยานยนต์รุ่นและสีเดียวกับนายเพชร ที่ทำร้ายน้องชายตน ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ออกมาจากคลังสินค้าดังกล่าว ทำให้ตนเข้าใจผิดคิดว่า นายอิลฟรานส์ หนิโซ๊ะ เป็น นายเพชร คนที่ทำร้ายน้องชายตน จึงได้เรียกให้จอดและเข้ารุมทำร้ายตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่น ๆ ตนจำได้ไม่ทั้งหมด ซึ่งก็ได้ให้ข้อมูลกับทางด้านตำรวจไปหมดแล้ว และในเบื้องต้น ตนได้มีการพูดคุยกับนายอิลฟรานส์ หนิโซ๊ะ ผู้เสียหายแล้ว และพร้อมที่เยียวยาค่าเสียหายให้ ส่วนคนอื่น ๆ ที่ร่วมกันก่อเหตุตนยินดีเป็นคนกลางในการเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้บาดเจ็บให้
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ระบุว่า ผู้ก่อเหตุรายอื่น ๆ ขณะนี้พอทราบตัวแล้วแต่ต้องรอให้ผู้เสียหายมาชี้ยืนยันจึงจะขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
