ฝนตกน้ำท่วมขังในหมู่บ้านเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง สมุทรปราการ กลายเป็นทะเล ชาวบ้านเผยครั้งนี้ถือว่าระดับน้ำสูงที่สุดในรอบ 20 ปี ด้านนายอนันต์ ตั้งเนียนนาทชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง สั่งเจ้าหน้าที่ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 15 เครื่อง สูบน้ำที่ท่วมขังภายในเคหะบางพลี พบขยะจำนวนมากขวางทางน้ำจำนวนมาก
สภาพปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทำให้ภายในหมู่บ้านเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง สมุทรปราการ กลายเป็นทะเลมีปริมาณน้ำท่วมขังถนนสายหลักในหมู่บ้านทุกสายสูงกว่า 1 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และมีรถยนต์เก๋งและรถจักรยานยนต์จอดเสียอยู่ข้างทางจำนวนมาก ขณะที่การจราจรทุกเส้นทางในจังหวัดสมุทรปราการกลายเป็นอัมพาต รถติดยาวกิโลเมตรมาตั้งแต่ช่วงเช้าหลังจากฝนหยุดตกและมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่บนถนนหลายสายซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรไปมาในจังหวัดสมุทรปราการ ขณะที่หลายหน่วยกันได้น้ำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ลงมาติดตั้งตามพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมขัง เพื่อสูบระยายน้ำออกจากจุดดังกล่าว เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน คาดว่าถ้าฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีก น่าจะระบายน้ำออกจากผิวการจราจรและคืนสภาพปกติได้ในช่วงเย็นของวันนี่
ขณะที่นายทวีภพ เขียวหวาน รปภ.หน้าหมู่บ้านบางพลีทาวโฮม ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของหมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี ได้กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่นี้มา 10 กว่าปีแล้วก็ไม่เคยมีน้ำท่วมขังสูงขนาดนี้ ทุกครั้งจะท่วมแค่ตาตุ่ม เพราะถนนช่วงหน้าหมู่บ้านเป็นพื้นสูง กว่าจุดอื่น แต่มาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ฝนได้กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงตี 4 จนถึง 6 โมงเช้า ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงขนาดนี้ รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และมีรถของชาวบ้านที่จอดอยู่ข้างทางหลายคันที่มาขับหนีไม่ทันถูกน้ำไหลทะลักเข้าไปในรถอีกหลายคัน ครั้งนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำที่ท่วมขังสูงมากในรอบ 10 ปี
ด้านนางสาวจรีรัตน์ สุขสร้อย เจ้าของร้านเสริมสวยแอร์บิวตี้ ปริมาณน้ำได้ไหลทะลักเข้าไปในร้านทำให้ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งอุปกรณ์ในการเสริมสวยบางส่วนได้รับความเสียหายเนื่องจากเก็บไม่ทัน ได้เล่าว่า ปกติแล้วน้ำไม่เคยท่วมสูงขนาดนี้ในรอบ 20 ปีไม่เคยมีปรากฏการแบบนี้มีเพียงครั้งนี้ที่ท่วมสูงมาก ขนาดใช้อิฐบล็อกมาก่อด้านกชหน้ากั้นน้ำแล้วยังไม่รอด น้ำได้ไหลทะลักเข้าไปในร้านจนข้าวของเสียหายเพราะเก็บไม่ทัน และเราไม่ได้เตรียมตัวและไม่คิดว่ามันจะท่วมสูงขนาดนี้ โดยฝนเริ่มตกตั้งแต่ตี่ 5 กว่าจนเกือบถึง 7 โมงเช้าปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่ารวดเร็ว ครั้งนี้ถือว่าปริมาณน้ำที่ท่วมขังมีระดับสูงสุดแล้วเท่าที่ตนอยู่มา
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. หลังนาย อนันต์ ตั้งเนียนนาทชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อยของชาวบ้านในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี พร้อมสั่งระดมคนงานกว่า นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 15 เครื่องเข้าระดมสูบน้ำจากพื้นที่ภายในเคหะเมืองใหม่บางพลีจำนวนสองจุด เพื่อเร่งสูบน้ำลงสู่คลองเจริญราษฎร์ แต่ก็พบว่าปริมาณน้ำในคลองเจริญราษฎร์มีระดับน้ำที่สูงเอ่อล้นตลิ่งด้วยเช่นกันทำให้การระบายน้ำเป็นไปค่อนข้างลำบาก จึงเร่งประสานไปยังกรมชลประทาน ชลหารพิจิตรเร่งสูบน้ำลงสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเติมในช่วงเย็นสถานการณ์น่าจะเข้าสภาวะปกติ
รองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับน้ำท่วมในรอบนี้ถือเป็นการท่วมที่หนักที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยอมรับพื้นที่ในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลีเป็นแอ่งกระทะ ทำให้กลายเป็นที่รองรับน้ำได้อย่างดี ถึงแม้จะมีการวางระบบระบายน้ำแบบลำรางสาธารณะรอบชุมชนแต่กลับพบปัญหาของขยะจำนวนมากที่ผู้พักอาศัยในชุมชนบางรายมักง่ายทิ้งขยะลงสู่ที่สาธารณะและลำรางทำให้ขยะเหล่านี้ไปกองรวมขวางทางระบายน้ำจนต้องระดมคนงานจำนวนมากได้ตักขยะขึ้นจึงอยากวอนไปยังประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนการเคหะอย่าทิ้งขยะลงในที่สาธารณะหรือลำรางระบายน้ำ ทั้งนี้ทางเทศบาลบางเสาธงไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาน้ำท่วมในแต่ละครั้งเมื่อเกิดฝนตกโดยปัจจุบันได้วางระบบระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำพร้อมทั้งประสานไปยังฝั่งนิคมอุตสาหกรรมบางพลีเพื่อสูบน้ำออกลงสู่คลองหัวเกลือด้วยเช่นกัน
ขณะที่การจราจรบนถนนสายหลักหลายสายตั้งแต่ช่วงเช้ากลายเป็นอัมพาต เนื่องจากมีบางจุดที่มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังบนผิวการจราจร ทำให้รุเคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง ถนนเฉพาะบนถนนบางนาตราด และถนนเทพารักษ์ ที่กลายเป็นอัมพาตอย่างหนัก เนื่องมีรถจำนวนมากที่มุ่งหน้าเข้าชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี แต่รถไม่สามมารถเคลื่อนตัวไปได้ทำให้ออกมากีดขวางการจราจร แม้กระทั่งบนทางด่วนบูรภาวิถี ทั้งขาเข้าและขาออกติดเป็นทางยาวหลายกิโล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพื้นที่ติดต่อต้องออกมาเร่งระบายการจราจรและเส้นทางเชื่อมต่อที่เป็นทางลัด
