จากกรณีแปดชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชาวบ้าน ขณะที่นักข่าวโทรเรียกรถพยาบาล กลับถูกหนึ่งในวัยรุ่นเข้ามาต่อยปากฉีก เข้ามอบตัวแล้ว เจ้าตัวอ้างเมายกมือขอโทษ ขณะที่ผู้เสียหายยันเอาเรื่องถึงที่สุด ทางด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้ลงมาสั่งการณ์ให้ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง พร้อมกำชับให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
จากกรณีเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ที่ 11 มิถุนายน 2563 ที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน เข้ารุมทำร้ายร่างกายสองผัวเมีย และนักข่าวพิเศษของทีวีช่องหนึ่งได้บาดเจ็บปากฉีกต้องเย็บถึง 18 เข็ม ไม่พอใจที่โทรแจ้งตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- เปิดพร่องระบายน้ำเพื่อเร่งไหลลงทะเล รับมืออีกระลอก
ความคืบหน้าลาสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ กลุ่มผู้ก่อเหตุรวม 8 คน ประกอบด้วย 1. นาย ชาญชัย หรือเบส อุดมผล อายุ 32 ปี ผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักข่าว 2. นาย โฉนด หังสวนัส อายุ 46 ปี 3. นายวรชัย เกตุศิริ อายุ 34 ปี 4.วิษณุ หังสวนัส อายุ 41 ปี 5. นาย จรุงกิจ ศักดิ์สมพงษ์ อายุ 35 ปี 6. นายภาคภูมิ หังสวนัส อายุ 41 ปี 7. นายชัยวัฒนา รุ่งแหล่ม อายุ 35 ปี และ 8. นายศราวุฒิ ดำแพร อายุ 38 ปี ได้พากันเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมยอมรับผิดว่าได้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง ขณะที่นาย ชาญชัย อุดมผล หนึ่งในผู้ก่อเหตุที่เป็นคนทำร้ายนายบัณฑิต ผู้สื่อข่าว ได้ออกมายอมรับผิดและยกมือไหว้ขอโทษ โดยอ้างว่าขณะก่อเหตุพร้อมพวก เมาสุราและไม่ทราบว่านายบัณฑิต เป็นผู้สื่อข่าว โดยตนและพวกพร้อมชดใช้และเยียวยาให้ โดยอยากให้เจรจากัน
ขณะที่นายบัณฑิต พร้อมและผู้เสียหายอีกสองราย ยืนยันไม่ขอเจรจาและยอมความใด ๆ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกทั้งยังมีการข่มขู่ความปลอดภัยของตนไว้ด้วย จนทำให้ตนต้องหอบที่นอนหลบไปพักอาศัยที่อื่นเพราะหวั่นเรื่องความปลอดภัย ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับทั้งสองฝ่ายแต่เป็นการทำหน้าที่ของพลเมืองดีที่พบว่ามีการก่อเหตุและมีคนเจ็บจึงโทรแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาล เพื่อมาช่วยคนเจ็บโดยไม่คิดว่าการทำหน้าที่พลเมืองดี จะต้องมาถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บปากฉีกเย็บถึง 18 เข็ม ซึ่งแพทย์ระบุว่าหากรักษาแผลหายจะต้องทำศัลยกรรมริมปากด้วยเนื่องจากมีการฉีกขาดและเป็นแผลทะลุเข้าไปในช่องปาก
พ.ต.อ. อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก,สภ.สำโรงเหนือ สั่งพนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนคดีรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งหมดว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนจะเข้าข่ายสาหัสหรือไม่นั้น ต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์ผู้รักษาอีกครั้ง หากต้องรักษาบาดแผลถึง 20 วัน ก็จะตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งมีโทษจำคุก
ขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้ลงมาสั่งการณ์ให้ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง พร้อมกำชับให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ขณะที่ พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มสวัสดิ์ ผกก.สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้ตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาทำการสอบสวนผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดเพื่อเร่งส่งสำนวนส่งให้อัยการเพื่อเข้ากระบวนการของศาลเป็นผู้พิจารณาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: