ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุทรปราการ ไอ้อ่านคำพิพากาษ คดีดำของนาย จรูญ ยังประภากร อดีต สว.สมุทรปราการ ศาลให้ฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุธร พิพากษาจำคุก 8 เดือน คดีหมิ่นประมาท นายอุเทน ยังประภากร กรรมการผู้จัดการบริษัทฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2561 ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ บันลังก์ 14 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้อ่านคำพิพากษา คดีดำ อ 7949 / 2557 ซึ่ง นายอุเทน ยังประภากร กรรมการผู้จัดการบริษัทฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง จำเลย นายจรูญ ยังประภากร กรรมการบริหารและผู้ถือหุ่นของบริษัท ข้อหา นำเอาความเท็จไปฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาว่าโจทก์หมิ่นประมาทจำเลยด้วยการโฆษณา ซึ่งศาลให้ฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุธร พิพากษาจำคุก นายจรูญ เป็นระยะเวลา 8 เดือน
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2554 และวันที่ 7 มีนาคม 2554 จำเลยและพวกทั้งสามร่วมกันใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 ว่าร่วมกันออกหนังสือใน นามบริษัทฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด ลงวันที่ 5 มีนาคม 2554 เรื่อง ประกาศแจ้งให้ทราบว่า นายจรูญ ยังประภากร กรรมการบริหารและผู้ถือหุ่นของ บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด ถูกศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โดยเด็ดขาด จึงไม่อาจเข้ามาดำเนินการจัดการทรัพย์สินของบริษัทได้ เพราะเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่มีความน่าเชื่อถือ บริษัทข้าในฐานะประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ ที่มีอำนาจเด็ดขาดของบริษัท จึงมีคำสั่งให้นายจรูญ ยังประภากร พ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหาร และให้พ้นจากตำแหน่งบริหารของ บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด ทุกตำแหน่ง ไม่ให้มีสิทธิอำนาจบริหารจัดการในกิจการของบริษัทอีกต่อไป ไม่ลงชื่อ นายอุทัย ยังประภากร
ซึ่งข้อความดังกล่าว โจทก์หรือ นายอุเทน ยังประภากร ไม่ได้เป็นผู้ทำเอกสารไปแจกจ่ายให้กับพนักงาน ศาลชั้นต้นหรือศาลจังหวัดสมุทรปราการ เห็นว่า ในขณะเกิดเหตุ นายอุทัย ยังประภากร ผู้เป็นพ่อ สามารถเบิกความ และตอบคำถามศาลในคดีที่จำเลยกับพวกไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายอุทัย เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ย่อมแสดงให้เห็นว่า นายอุทัย สามารถลงลายมือชื่อในเอกสารได้ เพราะได้จัดทำขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกัน และเมื่อเปรียบเทียบลายมือของนายอุทัย ในเอกสาร หมาย จ.3 และ จ.9 แล้ว มีลักษณะเหมือนและคล้ายกับลายมือชื่อที่จำเลยอ้างว่า นายอุทัย เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสาร ประกอบกับโจทก์ยืนยันว่า นายอุทัย เป็นผู้ลงมือชื่อในเอกสารหมาย จ.3 จึงเชื่อว่า ผู้ที่จัดทำเอกสารหมาย จ.3 และลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายอุทัย หาใช่โจทก์เป็นผู้ทำเอกสารตามที่จำเลยกล่าวอ้างไม่ พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่มีน้ำหนัก หักล้างพยานโจทก์ จึงรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานนำเอาความอันเป็นเท็จมาฟ้องโจทก์ ว่ากระทำความผิดอาญา โดยศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน ศาลอุธร พิพากษายืน จำเลยฎีกาโดยพิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต่อมาศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่จำเลยฟ้องโจทก์ ว่า กระทำผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทจำเลยโดยการโฆษณา อันเป็นความเท็จ จำเลยจึงมีความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 เดิม ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
ต่อมาเวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่ศาลได้นำตัวนาย จรูญ ยังประภากร ขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์ และเดินทางออกจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ สำหรับนายจรูญ ยังประภากร อายุ 67 ปี เป็นบุตรคนชายคนที่ 2 ของ นายอุทัย ยังประภากร ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด อดีตเคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดสมุทรปราการ ที่ผ่านเคยมีคดีฟ้องร้องเรื่องมรดก กับ นายอุเทน ยังประภากร ผู้เป็นน้องชาย คนละแม่ มาแล้วหลายสิบคดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: