ชาวบ้านสุดทนถ่ายคลิปและภาพนิ่ง ร้องสื่อ การขุดเปิดหน้าถนนไม่มีป้ายเตือน รถจักรยานยนต์ขี่มาลื่นล้มได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คัน บางรายถึงขั้นแขนหัก แถมร้านค้าในบริเวณนั้นขายของไม่ได้เนื่องจากหากมีรถวิ่งผ่านไปจะทำให้เกิดฝุ่นเข้าร้าน ทำให้ลงอาหาร แถมรถที่วิ่งผ่านไปมาพบว่ามีฝุ่นประสมกับยางมะตอยติดรอบรถล้างก็ไม่ออก
เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 20 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์สัญจรผ่านไปมาบนถนนเทพารักษ์ทั้งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่ลงสะพานข้าคลองบางปลา ไปจนถึงคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่มีการลอกเปิดหน้าถนนเพื่อที่จะทำการปรับผิวการจราจรใหม่ ทั้ง 2 ฝั่งทั้งขาเข้าและขาออก โดยไม่มีการตั้งป้ายเตือนหรือระวังอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งถนนสายดังกล่าว เป็นถนนสายหลักที่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่รถพ่วงและรถของชาวบ้านใช้สัญจรผ่านไปมาจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงเย็นซึ่งเป็นเวลาเร่งด่วน อันตรายที่สุดคือช่วงกลางคืนและช่วงเช้ามืดที่ประชาชนจะเดินทางไปทำงานโดยการขับขี่รถจักรยานยนต์หากในช่วงกลางคืนมีฝนตกลงมาก็จะทำให้ถนนลื่นมาก ทำให้รถจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมาในช่วงดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มเช้าเดียวกว่า 20 คัน ทำให้ทรัพย์สินเสียหายและมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากใครทำให้ไก้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ชาวบ้านจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปขณะเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มและบาดเจ็บมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขและติดป้ายและสัญญาณเตือนพร้อมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ข่าวน่าสนใจ:
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- สองแม่ลูกปีนหน้าต่างชั้น 2 หนีตายไฟไหม้บ้านกลางดึก คาดไฟฟ้าลัดวงจร
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
หลังได้รับการร้องเรียนในช่วงบ่ายของวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดดังกล่าว ได้พบว่าบนถนนสายดังกล่าวมีการลอกเปิดผิวหน้าถนนออกทั้งสองฝั่งทั้งขาเข้าและขาออก จนถึงชั้นดินเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ประกอบกับเมื่อสองสามวันที่ผ่านมามีฝนตกลงมาและมีรถบรรทุกวิ่งสัญจรไปมาจำนวนมากจึงทำให้พื้นผิวถนนเป็นหลุดเป็นบ่อขนาดใหญ่ และมีบางจุดพื้นผิวการจราจรต่างระดับกันประมาณ 4-5 นิ้วและไม่มีป้ายและสัญญาณไฟแจ้งเตือนแต่อย่างใด และมีนย้ำท่วมขังในบางจุดโดยเฉพาะในจุดที่ชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุและถ่ายคลิปมาร้องเรียนมีน้ำท่วมขังและผิวการจราจรเป็นดินทำให้จักรยานยนต์ ที่ขี่ผ่านไปมาลื่นล้มกันนับสิบคันในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง จนชาวบ้านต้องออกมายืนโบกรถและคอยบอกแจ้งเตือนให้คนที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าวให้ระมัดระวัง
ขณะที่ นางปณิดา พุกรอด อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มในจุดที่มีการเปิดหน้าถนน จนลูกสาววัย 3 ขวบได้รับบาดเจ็บได้เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังจะไปทำงานโดยที่แฟนเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนอุ้มลูกสาววัย 3 ขวบนั่งซ้อนท้ายเพื่อที่จะไปทำงาน แต่พอมาถึงในจุดดังกล่าวทั้ง ๆ ที่ระวังแล้วแต่ถนนลื่นมาก ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มจนลูกสาววัย 3 ขวบได้รับบาดเจ็บ โดยที่ก่อนหน้าที่ตนจะล้มก็มีรถจักรยานยนต์คนอื่นล้มอยู่ก่อนแล้วหลายคันเพราะถนนตอนนั้นมันลื่นจริงเพราะตอนกลางคืนฝนตกลงมาทำให้มีน้ำท่วมขังจนมองไม่เห็นความต่างระดับของหน้าถนน ซึ่งถนนสายนี้มีการขุดเปิดหน้าถนนมานานหลายอาทิตย์แล้ว เห็นแต่ขุดเปิดหน้าถนนทิ้งเอาไว้แต่ไม่มีการทำอย่างอื่นต่อเลย และก็ข้ามไปขุดเปิดหน้าถนนฝั่งตรงข้ามต่อ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ทำให้เสร็จเป็นฝั่ง ๆ ไปมันจะได้เร็วขึ้น หลังขุดเปิดหน้าถนนเสร็จก็ทิ้งเอาไว้แบบนี้โดยไม่มีป้ายหรือสัญญาณไฟแจ้งเตือนแต่อย่างไร ตนมาประสบเหตุประมาณวันอังคารที่ผ่านมา พอไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก็ยังมีผู้ที่ประสบอุบัติเหตุในจุดเดียวกันได้รับบาดเจ็บอีกหลายคนถึงขั้นหัวเข่าฉีกต้องเย็บแผล เท่าที่ตนดูในโซเชียล เห็นว่ามีชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุร้องเรียนเป็นจำนวนมาก และเมื่อช่วงช้าของวันนี้มีรถจักรยานยนต์ลื่นล้มกว่า 30 คันในช่วงเวลาไม่ถึงชั่วโมง ก็อยากจะฝากถึงหน่วยงานที่ทำหรือรับผิดชอบ อย่างน้อยให้ตั้งป้ายบอกก็ได้ หรือก็รีบทำให้เสร็จโดยเร็ว เพราะว่าย่านนี้เป็นย่านอุตสาหกรรม เขาก็ทำงานกันทุกวัน รถก็มียางมะตอย ติดเต็มไปหมด หรือมีหน่วยงานไหนก็ได้มารับผิดชอบหน่อยเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเราก็ก็จ่ายเงินกันเองทั้งนั้น ถ้าไม่มีประกันก็แย่เหมือนกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: